ในโลกยุคเทคโนโลยีปัจจุบันมีความต้องการของการใช้ชิปเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง รวมทั้งวิกฤตโควิดเป็นปัจจัยเร่งการใช้เทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้น แต่ความสามารถในการผลิตไม่ได้เพิ่มขึ้นตามความต้องการ ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลนชิปเป็นอย่างมาก
ล่าสุดบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกอย่าง Apple, Amazon, Facebook และ Tesla เร่งพัฒนาชิปประมวลผล เพื่อใช้เป็นส่วนประกอบของสินค้าเทคโนโลยีของบริษัท แต่ยังไม่มีแผนที่จะตั้งโรงงานผลิตชิปด้วยตนเอง เนื่องจากการตั้งโรงงานผลิตชิปที่มีมาตรฐานชั้นนำของโลกอย่าง TSMC ใช้ต้นทุนสูงมาก ราวๆ หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และใช้เวลาหลายปีกว่าจะเริ่มการผลิตได้ บริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้จึงออกแบบพัฒนาชิปของตัวเอง และส่งไปให้บริษัทผลิตชิปผลิตอีกที
“บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เหล่านี้เร่งพัฒนาการออกแบบชิปที่เป็นแบบเฉพาะสำหรับสินค้าเทคโนโลยีของตัวเอง เนื่องจากบริษัทเทคโนโลยีหลายๆ แห่ง ที่เป็นบริษัทคู่แข่งในตลาดใช้ชิปรูปแบบทั่วไป โดยบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้ต้องการเปลี่ยนมาใช้ชิปที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อให้สินค้าของตนเองมีประสิทธิภาพมากขึ้นตามที่ต้องการ โดยนำมาซึ่งความสามารถในการต่อยอดพัฒนาซอฟต์แวร์ และเพิ่มความสามารถการแข่งขันในตลาด” Syed Alam หัวหน้าฝ่ายเซมิคอนดักเตอร์ระดับโลกของ Accenture กล่าวกับ CNBC
Russ Shaw อดีตกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหารของบริษัท Dialog Semiconductor ในสหราชอาณาจักร กล่าวกับ CNBC ว่า “ชิปที่ถูกออกแบบโดยเฉพาะมีประสิทธิภาพมากกว่า และใช้พลังงานของอุปกรณ์น้อยกว่า ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน หรือผู้ให้บริการคลาวด์ รวมถึงมีราคาถูกกว่าชิปรูปแบบทั่วไปอีกด้วย”
ด้วยเหตุผลเหล่าต่างๆ นี้ ทำให้บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำหลายแห่งออกมาประกาศว่าจะออกแบบและพัฒนาชิปด้วยตนเองกันอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2020 บริษัท Apple ออกมาประกาศว่าจะเปลี่ยนจากการใช้ชิปของ Intel มาใช้ชิป M1 ที่บริษัทออกแบบพัฒนาเอง และผลิตโดยบริษัทชิปอันดับ 1 ของโลกอย่าง TSMC ซึ่งจะใช้ใน iMac และ iPad รุ่นใหม่
บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Tesla ก็มีการออกแบบและพัฒนาชิปด้วยตัวเอง เพื่อให้ AI ในการประมวลผลท้องถนนได้อย่างมีประสิทธิภาพมาตั้งแต่ปี 2019 แล้ว และล่าสุดได้ร่วมมือกับ Samsung เพื่อเตรียมผลิตชิปขนาด 5 นาโนเมตรสำหรับรถ Tesla
และอีกหลากหลายบริษัทที่ประกาศพัฒนาชิปด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นบริษัท Amazon, Google และ Facebook แต่ยังไม่ได้มีการตั้งโรงงานผลิตชิปเอง
แต่บริษัทที่มีกลยุทธ์ที่แตกต่างจากบริษัทอื่นคือ บริษัท Baidu ผู้ให้บริการเสิร์ชเอนจินอันดับ 1 ของจีน ประกาศระดมเงินทุนสำหรับจัดตั้งบริษัทผลิตชิปได้ถึง 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนมีนาคม และแยกบริษัทออกมาภายหลังภายใต้ชื่อ Kunlun Chip Technology Co. โดยไม่ได้เป็นบริษัทลูกของ Baidu
บริษัท Kunlun Chip Technology Co. จะเน้นไปที่การผลิตชิปสำหรับการประมวลผล AI เป็นหลัก ซึ่งมีการเปิดรับผลิตชิปให้กับบริษัทอื่นๆ ไม่ใช่เพียงแค่ Baidu เท่านั้น
อ้างอิง:
- https://www.cnbc.com/2021/09/06/why-tesla-apple-google-and-facebook-are-designing-their-own-chips.html?fbclid=IwAR1Ub0hDqUSBZ59CQfgEKAEUPWxVsD8Kw-O-2x08oYPOX8KsZlYH5gAqtjc
- https://www.cnbc.com/2021/03/16/baidu-ai-chip-unit-valued-at-2-billion-after-funding.html
- https://www.gizmochina.com/2021/01/26/samsung-tesla-5nm-chip-smart-car/
- https://asia.nikkei.com/Business/Tech/Semiconductors/Apple-s-follow-up-to-M1-chip-goes-into-mass-production-for-Mac
- https://www.reuters.com/technology/baidus-ai-chip-unit-kunlun-completes-new-funding-2-bln-valuation-source-2021-03-15/
เตรียมพบกับฟอรัมที่ผู้บริหาร ‘ต้องดู’ ก่อนวางแผนกลยุทธ์ปีหน้า! The Secret Sauce Strategy Forum คัมภีร์กลยุทธ์ฝ่าวิกฤตปี 2022
📌 เฟรมเวิร์กกลยุทธ์ใช้ได้จริง
📌 ฉากทัศน์เศรษฐกิจไทย–โลก
📌 เทรนด์ผู้บริโภค–การตลาด
📌 เคสจริงจากผู้บริหาร
ซื้อบัตรได้แล้วที่ www.zipeventapp.com/e/the-secret-sauce
#TheSecretSauceStrategyForum2022