×

‘ขออย่าทอดทิ้งเด็กเล็ก’ เครือข่ายภาคประชาสังคม ยื่นสภาจัดงบอุดหนุนสวัสดิการถ้วนหน้า พบครอบครัวได้รับผลกระทบสูง

โดย THE STANDARD TEAM
19.08.2021
  • LOADING...
Civil society network

วันนี้ (19 สิงหาคม) ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา เกียรติ สิทธีอมร ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์, สุทิน คลังแสง ส.ส. พรรคเพื่อไทย, อาดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ, เพชรดาว โต๊ะมีนา ส.ส. พรรคภูมิใจไทย, วรรณวิภา ไม้สน ส.ส. พรรคก้าวไกล, พ.ต.อ. ทวี สอดส่อง ส.ส. พรรคประชาชาติ, โกวิทย์ พวงงาม ส.ส. พรรคพลังท้องถิ่นไท และคณะ รับยื่นหนังสือจาก สุนี ไชยรส คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเงินอุดหนุนเด็กเล็กสู่ถ้วนหน้า และผู้แทนองค์กรภาคประชาสังคมที่ขับเคลื่อนงานในประเด็นเด็ก เยาวชน สตรี ผู้พิการ เครือข่ายแรงงานทั้งในและนอกระบบ เรื่อง ขอให้พรรคการเมืองร่วมสนับสนุนนโยบายสวัสดิการเงินอุดหนุนเด็กเล็กแบบถ้วนหน้า ตามมติคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ (กดยช.) และผลักดันให้รัฐบาลมีมาตรการป้องกันและเยียวยาเด็กเล็ก อายุ 0-6 ปี 

 

จากสถานการณ์โควิด กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน ดำเนินโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดตั้งแต่ปี 2558 และขยายความคุ้มครองแก่เด็กเล็กมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันขยายความคุ้มครองเด็กแรกเกิด 0-6 ปี ในวงเงิน 600 บาทต่อคนต่อเดือน ในกลุ่มที่มีรายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนไม่เกิน 100,000 บาทต่อคนต่อปี ในปี 2564 ได้สนับสนุนเด็กเล็กไปประมาณ 2 ล้านคน 

 

คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเงินอุดหนุนเด็กเล็กสู่ถ้วนหน้า ประกอบด้วย องค์กรภาคประชาสังคมที่ขับเคลื่อนงานในประเด็นเด็ก เยาวชน สตรี ผู้พิการ เครือข่ายแรงงานทั้งในและนอกระบบ และนักวิชาการ ซึ่งปัจจุบันมีองค์กรสนับสนุนกว่า 300 องค์กรทั่วประเทศ มีข้อเรียกร้องให้รัฐบาลเปลี่ยนแปลงนโยบายให้เงินอุดหนุนเด็กเล็กแบบถ้วนหน้าถึงนายกรัฐมนตรีและ พม. อย่างต่อเนื่อง แต่รัฐบาลกลับเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2565 ไว้เพียง 1.6 หมื่นล้านบาท โดยไม่ได้เสนองบประมาณแก่เด็กเล็ก 4.2 ล้านคนทั่วประเทศตามมติ กดยช. ซึ่งเพิ่มงบประมาณปี 2565 อีกเพียงประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาทเท่านั้น แต่อุดหนุนเด็กเล็กเพิ่มอีกถึง 2.2 ล้านคน ประกอบกับประเทศไทยกำลังเผชิญกับสถานการณ์โควิดอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม ครอบครัวที่มีเด็กเล็กอายุ 0-6 ปี ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจเป็นสัดส่วนที่สูงกว่าครอบครัวที่ไม่มีเด็กเล็ก จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องดำเนินการเร่งรัดนโยบายสวัสดิการเงินอุดหนุนเด็กเล็กอายุ 0-6 ปี แบบถ้วนหน้า ตามมติของ กดยช. และขอให้สภาผู้แทนราษฎรสนับสนุนนโยบายดังกล่าว ดังนี้

 

  1. ขอให้พรรคการเมืองสนับสนุนให้นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี จัดสวัสดิการเงินอุดหนุนเด็กเล็กแบบถ้วนหน้าตามมติของ กดยช. ที่เห็นชอบในหลักการและสวัสดิการเงินอุดหนุนเด็กเล็กอายุ 0-6 ปี จำนวน 600 บาทต่อคนต่อเดือน แบบถ้วนหน้า โดยจัดสรรงบประมาณภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 

 

  1. จัดสรรให้ครอบครัว ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และบุคลากรที่ต้องดูแลเด็กเล็ก ได้รับการฉีดวัคซีนโดยเร็ว รวมทั้งมีมาตรการกระจายอุปกรณ์ป้องกันสำหรับเด็กเพื่อคุ้มครองเด็กเล็ก มาตรการส่งเสริมดูแลสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย ลดความเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโควิดน้อยที่สุด

 

  1. ผลักดันมาตรการเยียวยาเพื่อลดผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตเด็กเล็ก อาทิ การดูแลด้านอาหารและส่งเสริมโภชนาการแก่เด็กเล็กให้เข้าถึงบริการได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งเสริมสร้างพัฒนาการให้แก่เด็กเล็กระหว่างรอศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเปิดบริการ

 

เกียรติ สิทธีอมร เป็นตัวแทนกล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ทุกพรรคมีความเห็นตรงกันว่าควรสนับสนุนมาตรการดังกล่าว ทั้งนี้จะพยายามดำเนินการในส่วนของพรรคการเมืองเพื่อผลักดันมาตรการที่เสนอให้เกิดเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด และเห็นว่ามีความเหมาะสมที่จะใช้มาตรการในส่วนนี้ในงบกลางเพื่อให้ตรงตามเจตนาและข้อกำหนดในการใช้งบกลางของรัฐบาลต่อไป

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

X
Close Advertising