กรีซกำลังเผชิญกับคลื่นความร้อนรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในรอบหลายทศวรรษ ส่งผลให้เกิดไฟป่าครั้งใหญ่และกำลังลุกลามไปทั่วประเทศ ทำให้ต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อากาศที่ร้อนจัดและเปลวเพลิงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อภารกิจในการดับไฟป่า
คีริอาคอส มิตโซตาคิส นายกรัฐมนตรีของกรีซ แถลงทางโทรทัศน์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า กรีซกำลังเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติครอบคลุมพื้นที่เป็นวงกว้างอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เนื่องจากเกิดไฟป่าถึง 586 จุดในทั่วทุกมุมของประเทศ เผาผลาญบ้านเรือนไปหลายร้อยหลังคาเรือน ทำให้ต้องอพยพประชาชนถึง 63 ครั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีกรีซยังกล่าวขอโทษสำหรับความบกพร่องของรัฐบาลในการควบคุมไฟป่า
“ช่วงหลายวันที่ผ่านมาถือเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดสำหรับประเทศของเราในรอบหลายทศวรรษ” มิตโซตาคิสกล่าว พร้อมระบุว่าอากาศร้อนจัดและภัยแล้งที่ดำเนินมานานหลายเดือนเป็นอุปสรรคต่อความพยายามในการดับไฟป่า
เกาะเอเวีย ซึ่งเป็นเกาะใหญ่อันดับสองของกรีซ เป็นศูนย์กลางของพายุเพลิงที่ลุกลามไปทั่วประเทศอยู่ในขณะนี้ โดยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า ไฟป่าได้เผาผลาญพื้นที่ของเกาะไปมากกว่าครึ่งหนึ่ง
ไฟป่าที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบอย่างมากต่อชาวกรีซที่พึ่งพาป่าเพื่อการดำรงชีวิต ชาวบ้านบนเกาะเอเวียเปิดเผยกับ CNN ว่าความช่วยเหลือของรัฐมาช้าเกินไป และผลิตผลของพวกเขา เช่น ลูกเกด น้ำผึ้ง มะกอก และมะเดื่อ ถูกทำลายในเปลวเพลิง
ขณะที่ประชาชนหลายร้อยคนออกมาชุมนุมประท้วงหน้ารัฐสภาในกรุงเอเธนส์เมื่อวันจันทร์ เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อการจัดการรับมือไฟป่าของรัฐบาล
“เรากำลังประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่ปล่อยให้ทั้งประเทศถูกเผา เพราะสนใจผลประโยชน์ก่อนประชาชน” นิคอส ลูตอส ผู้ประท้วงกล่าวกับ Reuters “เราประท้วงที่รัฐบาลใช้งบประมาณหลายล้านไปกับการจัดซื้อเครื่องบินรบและจัดสรรให้ตำรวจ แต่ไม่จัดสรรให้หน่วยดับเพลิง”
อันนา มิติลิเนอู ผู้ประท้วงอีกคนหนึ่งกล่าวว่า “ประชาชนมีความโกรธแค้นอย่างมาก เพราะรัฐบาลไม่จัดจ้างเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า หน่วยดับไฟป่าไม่ใช่นักผจญเพลิงทั่วไป แต่หน่วยพิเศษนี้กลับถูกยุบ นั่นคือสาเหตุที่ทำให้เรากำลังถูกเพลิงเผาไหม้อยู่ในเวลานี้”
นายกรัฐมนตรีมิตโซตาคิสกล่าวว่าจะสืบหาสาเหตุของความล้มเหลวในการจัดการกับไฟป่า และนำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาอธิบายหรือลงโทษ ขณะที่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจะได้รับการชดเชย
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมเตือนว่ายุโรปตอนใต้ ซึ่งเกิดภัยแล้งบ่อยและรุนแรงขึ้นนั้น กำลังตกอยู่ในความเสี่ยงสูงสุดจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
“เห็นได้ชัดว่าวิกฤตสภาพภูมิอากาศส่งผลกระทบต่อทั้งโลก” มิตโซตาคิสกล่าว “นั่นคือคำอธิบาย แต่ไม่ใช่ข้ออ้าง หรือข้อแก้ตัว”
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Intergovernmental Panel on Climate Change: IPCC) ได้ออกรายงานซึ่งสรุปใจความสำคัญตอนหนึ่งได้ว่า “เป็นที่ชัดเจนว่ามนุษย์เป็นตัวการที่ทำให้เกิดวิกฤตสภาพภูมิอากาศ” และยืนยันว่า “การเปลี่ยนแปลงน้ันเกิดขึ้นแล้วอย่างรวดเร็วและเป็นวงกว้าง และบางส่วนไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้”
นักวิทยาศาสตร์มีความเชื่อมั่นเพิ่มมากขึ้นว่า วิกฤตสภาพภูมิอากาศกับสภาพอากาศที่รุนแรงมีเชื่อมโยงกัน โดยระบุว่าภัยแล้งที่เคยเกิดขึ้นเฉลี่ยหนึ่งครั้งในรอบ 10 ปี ปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะเกิดบ่อยขึ้น 70% และเนื่องด้วยความแห้งแล้งและความร้อนที่สูงเป็นประวัติการณ์ จะส่งผลให้ฤดูไฟป่ากินเวลายาวนานขึ้นและมีอานุภาพทำลายล้างมากขึ้น
ภาพ: Getty Images
อ้างอิง: