สถาบันข้อมูลและเทคโนโลยีสารสนเทศจีน หรือ China Academy of Information and Communications Technology (CAICT) เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเศรษฐกิจดิจิทัลโลกในปี 2020 พบว่า สหรัฐอเมริกายังคงครองแชมป์อันดับ 1 ของโลกในฐานะประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุด ด้วยมูลค่า 13.6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
ขณะเดียวกัน แม้จีนจะตามมาอยู่ในอันดับ 2 ด้วยมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลที่ 5.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่หากพิจารณาในแง่ของอัตราความเร็วในการพัฒนา รายงานระบุว่า จีนกลับรั้งอันดับ 1 ในฐานะประเทศที่สามารถพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลได้รวดเร็วที่สุดในโลก ด้วยอัตราการเติบโตรายงปีที่ 9.6%
ส่วนเยอรมนี ญี่ปุ่น และอังกฤษ รั้งอยู่ในอันดับที่ 3, 4 และ 5 ด้วยมูลค่าเศรษฐกิจดิจิทัลที่ 2.54 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ, 2.48 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 1.79 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ
นอกจากนี้ในแง่ของสัดส่วนระหว่างเศรษฐกิจโดยรวมกับเศรษฐกิจดิจิทัล รายงานระบุว่า เศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศพัฒนาแล้วอย่างเยอรมนี อังกฤษ และสหรัฐฯ มีสัดส่วนที่ถือได้ว่าเป็นสัดส่วนหลักของเศรษฐกิจภายในประเทศ กล่าวคือคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 60% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP)
Global Times สื่อท้องถิ่นของทางการจีน รายงานว่า เศรษฐกิจดิจิทัลของจีนเริ่มมีเสถียรภาพแข็งแกร่งและมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจมากขึ้น ท่ามกลางวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิดและกระแสกดดันของเศรษฐกิจโลกที่กำลังชะลอตัวลง โดยทางการจีนตระหนักเป็นอย่างดีว่า เศรษฐกิจดิจิทัลจะเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต เห็นได้จากการเติบโตด้านนวัตกรรมบนโลกดิจิทัลของจีน ไล่เรียงตั้งไต่ออนไลน์ช้อปปิ้ง ห้องเรียนออนไลน์ หรือข้อมูลบันเทิงออนไลน์ ล้วนทำให้เกิดโมเดลธุรกิจแบบใหม่ที่สร้างอาชีพและสร้างรายได้ในห้วงเวลานี้
รายงานของ CAICT พบว่า เศรษฐกิจดิจิทัลของจีนในปี 2020 ที่ผ่านมา มีขนาดคิดเป็น 40% ของ GDP ประเทศ และขยายตัวเติบโตขึ้น 2.4% จากปี 2019
ยิ่งไปกว่านั้น อีกหนึ่งสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของจีนกำลังขยายตัวเติบโตได้อย่างดีในยุคโควิดก็คือ การที่รายได้ของบรรดาบริษัทในอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตขยายตัวเติบโตได้ดี โดยกระทรวงอุตสาหกรรมและไอทีจีนพบว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม-กรกฎาคม รายงานของบริษัทอินเทอร์เน็ตสัญชาติจีนหลักๆ รวมกันเพิ่มขึ้น 14.9% มาอยู่ที่ 691,600 ล้านหยวน
อ้างอิง:
