ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ อย่าปล่อยให้ใครก็ตาม มายึดครองความฝันของเราไป
คือประโยคที่ผู้เขียนนึกขึ้นมาได้ ในวันที่ชวน ‘สะอาด’ (นักวาดการ์ตูนเจ้าของหนังสือ ชายผู้ออกเดินทางตามเสียงของตัวเอง การศึกษาของกระป๋องมีฝัน ฯลฯ และคนวาดภาพประกอบบทความนี้) มาอัดรายการโลกคือการ์ตูน EP.2 ตอนที่พูดถึงตัวละคร มังกี้ ดี. ลูฟี่ จากวันพีซ หนึ่งในการ์ตูนที่รักและมีอิทธิพลมากที่สุดกับชีวิตของพวกเราสองคน
เริ่มต้นตั้งแต่คาแรกเตอร์ดีไซน์ สิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้รอยแผลเป็น หมวกฟาง ผลยางยืด ไปจนถึงการถอดรหัส ‘ภาวะความเป็นผู้นำ’ ที่พวกเราอาจจะให้คะแนนความเป็นผู้นำของกัปตันคนนี้ไม่มากนัก แต่เรารู้สึกว่าคนแบบนี้นี่ล่ะที่จะช่วยปกป้องความฝันของพวกเราได้
ผู้เขียนกับสะอาดรู้จักกันมา 10 ปี ตั้งแต่ยังเป็นเด็กวัยรุ่นจบใหม่เต็มไปด้วยความฝัน เรามักจะตั้งวงชื่นชมผสมนินทาผู้คน สลับกับแลกเปลี่ยนมุมมองชีวิต การทำงาน สังคม การเมือง ฯลฯ ด้วยมุมมองและวุฒิภาวะที่เปลี่ยนไปอยู่บ่อยๆ
บางครั้งก็ย้อนวัยกลับไปเป็นเด็ก จินตนาการว่านั่งอยู่บนดาดฟ้าเรือโจรสลัด เปิดถังเครื่องดื่มเย็นๆ ชวนกันคุยเรื่องความฝันที่เคยสวยงาม แต่ค่อยๆ เลือนลางกลายเป็นภาพจางๆ เพราะถูกอะไรบางอย่างมาพรากความฝัน กดทับและยัดเยียดความหวาดกลัวบนเส้นทางของตัวเองตั้งแต่ 7 ปีก่อน
ทั้งตัวผู้เขียน สะอาด และเพื่อนๆ หลายคน แยกย้ายไปใช้ชีวิต ทำงาน รวบรวมความกล้าเพื่อลุกขึ้นมาสู้กับ ‘อะไรบางอย่าง’ และยิ่งเวลาผ่านไป เนื้อหาในวงสนทนาร่วมกับเพื่อนๆ ก็เริ่มเพิ่มดีกรีความหดหู่ โกรธแค้น ไปจนถึงสิ้นหวัง หลายครั้งถึงกับคิดว่าถ้าไม่ได้ฤทธิ์เครื่องดื่มมาช่วยเอาไว้ เราอาจจะไม่ได้ยินเสียงหัวเราะออกมาจากปากใครเลยก็ได้
จนวันที่เราได้กลับมาคุยกันอีกครั้งในรายการโลกคือการ์ตูน ที่ต้องขอบคุณกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางและการ์ตูนวันพีซ ที่ทำให้เสียงหัวเราะ ความสนุกสนาน และรอยยิ้มจนตากลายเป็นขีดสระอิเหมือนตัวการ์ตูนที่เคยอ่านกลับมาอีกครั้ง รวมทั้ง ‘ความฝัน’ ที่ตัวละครอย่าง มังกี้ ดี. ลูฟี่ เตือนพวกเราว่าอย่ายอมแพ้และปล่อยให้ใครมายึดครองได้เป็นอันขาด
ความฝันจากเด็กหนุ่มอายุ 17 ปี ที่เดินเรือยังไม่เป็น แต่กล้าออกผจญภัยในท้องทะเลกว้างเพียงลำพัง (แน่นอนว่าเรือล่มตั้งแต่แรก!) และยังกล้าประกาศความฝันที่หลายคนไม่กล้าแม้แต่จะคิด
“ฉันจะเป็นเจ้าแห่งโจรสลัดให้ได้”
ลูฟี่พกความฝันและความกล้าไว้ใต้หมวกฟางใบเก่า ค่อยๆ รวบรวมพวกพ้องออกไปต่อสู้กับศัตรูที่แย่งชิงชีวิต ความฝัน และทุกสิ่งทุกอย่างไปจากผู้คนในหลายๆ อาณาจักร
ในวันที่ลูฟี่ไปถึงเราจะเห็นร่างกายที่บอบช้ำ อิดโรย ดวงตาของผู้คนเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง และหลายครั้งที่ตัวร้ายเก่งกาจเหมือนปีศาจที่ไม่มีวันเอาชนะ แต่ต่อให้พ่ายแพ้ไปแล้วกี่ครั้ง ลูฟี่จะกลับมาเอาชนะและปลดปล่อยผู้คนที่ถูกกดขี่ได้เสมอ
ตั้งแต่อารองที่กดขี่ เหยียดชาติพันธุ์, วาโปลูที่ละทิ้งประชาชนในอาณาจักร, คร็อกโคไดล์ที่ใช้เฟกนิวส์และโฆษณาชวนเชื่อปลุกปั่นให้ผู้คนแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ทะเลาะกันเอง, เอเนลูที่ตั้งตัวเป็นพระเจ้า ปกครองคนด้วยความหวาดกลัว
เก๊กโคโมเรียที่แย่งชิงเงา ทำให้คนกลัวแสงสว่าง, โดฟลามิงโก้ที่ลบความทรงจำจนเหมือนไม่เคยมีเรื่องร้ายเกิดขึ้น, บิ๊กมัมที่แย่งชิงอายุขัย, ไคโดที่ยึดการแสดงความรู้สึก ทำให้ถึงแม้เจ็บปวดอยากหลั่งน้ำตาแต่ทำได้แค่ส่งเสียงหัวเราะ
รวมทั้งทหารเรือของรัฐบาลโลกที่ใช้ความรุนแรงลบประวัติศาสตร์ 100 ปีที่หายไป โดยเฉพาะยุคที่นำโดยพลเอกอาคาอินุ ที่อ้างความยุติธรรมบังหน้า แต่ใช้วิธีปราบปรามที่ต่ำช้ายิ่งกว่าโจรสลัด ไปจนถึงเผ่ามังกรฟ้าที่ใช้สิทธิพิเศษของชนชั้นสูง กดขี่ ด้อยค่าชีวิตมนุษย์เป็นเพียงฝุ่นผงไร้ความความหมาย
เพราะฉะนั้นทุกๆ ฉากจบที่กลุ่มโจรสลัดหมวกฟางและลูฟี่ซัดตัวร้ายจนกระเด็น เลยไม่ได้ทำหน้าที่แค่เป็นฉากต่อสู้ที่ทรงพลัง เต็มไปด้วยความสะใจ แต่เป็นการช่วยยืนยันว่าเราสามารถรวมพลังเพื่อเปลี่ยนแปลงและเอาชนะทุกความอยุติธรรมได้จริงๆ
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกเจ็บปวด โกรธแค้น สิ้นหวัง กับทุกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในการ์ตูนเรื่องวันพีซ เราอยากชวนทุกคนมาฟังรายการโลกคือการ์ตูน ที่พูดถึงวันพีซตั้งแต่ EP.1-2
กลับไปท่องโลกแห่งจินตนาการว่าได้ซัดเผ่ามังกรฟ้า พลเอกอาคาอินุ และตัวร้ายต่างๆ ให้กระเด็น
แล้วกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริง เพื่อออกไปทวงคืนความฝันที่ถูกยึดครองกลับคืนมาด้วยกัน
สามารถรับชมรายการโลกคือการ์ตูน รายการที่เชื่อว่าการ์ตูนยิ่งใหญ่ เหมือนเป็นโลกทั้งใบของใครหลายคนได้ที่:
ติดตามผลงานของสะอาดเพิ่มเติมได้ที่