วันนี้ (28 มิถุนายน) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ซึ่งเกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงคมนาคม โดยใช้พื้นที่ ณ สถานีกลางบางซื่อ เป็นพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดความแออัดจากการเข้าใช้บริการในสถานพยาบาลที่ให้บริการฉีดวัคซีนและเพื่อให้เป็นไปตามแผนการระดมฉีดวัคซีนให้ประชาชนในเขตกรุงเทพมหานคร สามารถเข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น ตามนโยบาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้บริการวัคซีนแก่ประชาชนได้ครอบคลุมและโดยเร็วที่สุด เพื่อลดความรุนแรงของโรคและลดอัตราการตายด้วยโรคโควิด-19 โดยมีสถาบันโรคผิวหนัง กรมการแพทย์เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงานให้บริการฉีดวัคซีนร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2564
โดยกลุ่มแรกที่มีการทดสอบระบบบริการฉีดวัคซีนคือผู้ประกอบอาชีพขนส่งสาธารณะ ซึ่งถือเป็นปราการด่านแรกที่มีความเสี่ยงสูง จากนั้นเริ่มดำเนินการอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 มิถุนายน 2564 โดยมีจำนวนผู้รับบริการต่อวันคือ 10,000-15,000 คน กลุ่มเป้าหมายแบ่งเป็นสองส่วนคือ กลุ่มองค์กร/เป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ เช่น กลุ่มผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะ ครูและบุคคลากรในโรงเรียนในเขตกรุงเทพมหานคร (กทม.)/ปริมณฑล และกำลังดำเนินการต่อในกลุ่มภัตตาคารและผู้ให้บริการด้านสปา ส่วนอีกครึ่งหนึ่งคือ การให้บริการประชาชนทั่วไปที่จองคิวผ่าน 4 ค่ายมือถือ คือ True, NT, AIS, dtac
พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง และผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เปิดเผยว่า ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อได้ให้บริการฉีดวัคซีนภายใน 1 เดือน โดยข้อมูลล่าสุดวันที่ 27 มิถุนายน 2564 มียอดฉีดวัคซีนทะลุ 500,000 โดส โดยแบ่งเป็น Sinovac ประมาณ 160,000 คน ฉีดครบ 2 เข็มคือ 320,000 โดส และ AstraZeneca 180,000 โดส และผลข้างเคียงที่พบค่อนข้างน้อย คิดเป็นร้อยละ 0.40 คือ ฉีด 1,000 คนเจอมีอาการไม่พึงประสงค์ 4 ราย ตั้งแต่เปิดให้บริการมีผู้มีการรุนแรงจนต้องส่งต่อไปโรงพยาบาลเพียง 14 ราย และทุกรายมีอาการปกติดีหลังจากติดตามผลการรักษา ทั้งนี้ตั้งเป้าเร่งฉีดวันละ 15,000-20,000 คน ให้ครอบคลุมประชากรของ กทม. และปริมณฑลมากที่สุด
