การส่งออกไทยเรียกได้ว่าน่าจะเป็น ‘พระเอกหลัก’ ที่เข้ามาช่วยพยุงเศรษฐกิจในปีนี้ เพราะถือเป็นเครื่องยนต์เดียวที่เติบโตอย่างโดดเด่น โดยตัวเลขการส่งออกล่าสุดเดือนพฤษภาคม 2564 ที่กระทรวงพาณิชย์เพิ่งประกาศออกมา ขยายตัวได้ถึง 41.59% ถือเป็นการเติบโตที่สูงสุดในรอบ 11 ปี แต่คำถามคือการส่งออกของไทยในช่วงที่เหลือปีนี้ จะยังเติบโตได้มากน้อยแค่ไหน
นริศ สถาผลเดชา หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีทีบี กล่าวยอมรับว่า ตัวเลขเดือนพฤษภาคมถือว่าดีกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ ซึ่งเดิมแม้จะคาดไว้อยู่แล้วว่าการส่งออกในเดือนพฤษภาคมจะเติบโตได้ดี จากฐานปีก่อนที่ต่ำ แต่ตัวเลขจริงที่ออกมาก็สูงกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ ทำให้ศูนย์วิเคราะห์ทีทีบีได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของการส่งออกไทยในปีนี้เพิ่มเป็น 8.2% จากคาดการณ์เดิมที่ 6%
“ถ้าดูไส้ในจะเห็นชัดว่า ส่วนหนึ่งมาจากฐานที่ต่ำและราคาน้ำมันที่สูงขึ้นด้วย ทำให้สินค้าประเภทปิโตเคมีที่อิงกับราคาน้ำมันสูงขึ้น ส่งผลต่อมูลค่าการส่งออกที่เพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่ถ้าดูสินค้าในกลุ่มภาคการผลิตที่เกิดจากดีมานด์ ก็ถือว่าดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ด้วยเช่นกัน”
อย่างไรก็ตาม นริศเชื่อว่าการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้แม้จะขยายตัวได้ต่อเนื่อง แต่การเติบโตคงไม่สูงจนแตะระดับเลข 2 หลักเหมือนกับตัวเลขเดือนพฤษภาคม เพราะถ้าดูสัญญาณต่างประเทศ โดยเฉพาะการส่งออกของจีนก็เริ่มทรงตัวไม่ได้ขยายตัวร้อนแรงแบบในช่วงที่ผ่านมา
นอกจากนี้การส่งออกที่เร่งตัวขึ้นในช่วงนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากผู้ประกอบการในหลายๆ ประเทศเร่งตุนวัตถุดิบเพื่อรองรับการผลิตที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้ตัวเลขการสั่งซื้อสินค้าโป่งขึ้นมา ซึ่งทางศูนย์วิเคราะห์ทีทีบีเชื่อว่าระยะต่อไปการเร่งตุนสินค้าคงไม่ได้เพิ่มขึ้นแล้ว ประกอบกับตอนนี้การระบาดของโรคโควิด-19 เริ่มกลับมาในหลายๆ ประเทศ โดยเฉพาะบางเมืองในประเทศจีน ประเด็นนี้จึงอาจกระทบต่อการส่งออกไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้เช่นกัน
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
