ปฏิเสธไม่ได้วันนี้ว่า ‘สินทรัพย์ดิจิทัล’ หรือ Digital Asset กำลังเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่คนไทยให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
ส่วนหนึ่งมาจากการเติบโตของ ‘คริปโตเคอร์เรนซี’ (Cryptocurrency) หรือ สกุลเงินดิจิทัล ที่วันนี้ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนรายเล็ก รายใหญ่ หรือกระทั่งสถาบันการเงิน ตลอดจนบริษัทขนาดใหญ่ได้เข้าไปลงทุน และเปิดให้ใช้เหรียญสำหรับใช้จ่ายจริงๆ
บทความของธนาคารแห่งประเทศไทยระบุว่า เหตุผลที่สกุลเงินดิจิทัล ได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายเป็นเพราะถูกมองว่าจะเข้ามาเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนมูลค่าที่จะมาทดแทนการใช้เงินสด หรือแม้แต่เงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-Money) ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันได้หรือไม่
และด้วยศักยภาพของเทคโนโลยีการประมวลผลแบบกระจายศูนย์ที่อยู่เบื้องหลังอย่างบล็อกเชน (Blockchain) ที่มีความปลอดภัยและสามารถสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ใช้งาน ขณะที่เทคโนโลยีดังกล่าวช่วยลดบทบาทตัวกลางอย่างสถาบันการเงิน ที่มีต้นทุนค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ
แต่จริงๆ แล้วหากอ้างอิงพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 (พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ) ที่จัดทำขึ้นเพื่อกำกับดูแลการออกเสนอขายและการประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องจะพบว่า นอกจากคริปโตเคอร์เรนซีแล้ว ยังมีโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token) ซึ่งจะให้สิทธิแก่ผู้ถือในการเข้าร่วมลงทุนในโครงการหรือกิจการใดๆ และโทเคนดิจิทัลเพื่อการใช้ประโยชน์ (Utility Token) ที่ให้สิทธิแก่ผู้ถือในการได้มาซึ่งสินค้า บริการ หรือสิทธิอื่นใดที่เฉพาะเจาะจง
ล่าสุดกำลังจะมี Utility Token ตัวใหม่ที่กำลังจะเปิดขาย นั่นคือ ‘MVP Token’ โดยสิ่งที่ทำให้ MVP Token แตกต่าจาก Utility Token ตัวอื่นๆ มี 2 เหตุผลด้วยกันคือ 1. การได้รับการรองรับโดยบริษัทจดทะเบียนมหาชน และ 2. สามารถนำไปใช้งานได้จริงในโลกออฟไลน์ได้ทันที
สำหรับเรื่องแรกนั้นคือการที่ MVP Token ได้รับการรองรับโดยบริษัทจดทะเบียนมหาชนอย่าง ‘บริษัท เอ็ม วิชั่น จำกัด (มหาชน)’ (M Vision) หรือ MVP ซึ่งเป็นบริษัทมหาชนจำกัดในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (MAI) ของประเทศไทย ที่ให้บริการครอบคลุมตั้งแต่การจัดอีเวนต์ การบริการเทคโนโลยี และธุรกิจด้านกีฬาและการท่องเที่ยวแบบครบวงจร (Sport Solution)
การรับรอง MVP Token นั้นจะทำให้ M Vision มีหน้าที่ต้องใช้สินทรัพย์ของบริษัทเข้ามาค้ำมูลค่าเหรียญทุก 6 เดือนตามข้อบังคับใน White Paper
ขณะที่ข้อ 2 MVP Token สามารถนำมาใช้งานโลกออฟไลน์ได้ทันที ต่างจากโทเคนอื่นๆ ที่การใช้จริงจะเกิดขึ้นหลังการเปิดตัว (หรืออาจจะไม่เกิดขึ้นเลยก็ได้)
โดย MVP Token สามารถใช้แทนเงินสดเพื่อซื้อสินค้าและบริการท่องเที่ยวจากบริษัทในเครือ M Vision เช่น การจัดอีเวนต์, การฉายภาพยนตร์ และเช่ารถผจญภัยได้ทันที นอกจากนี้ M Vision ยังดำเนินการขยายการใช้งานให้กว้างขวางขึ้น เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้คนในยุคปัจจุบัน และช่วยเหลือผู้ประกอบการในภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19
ความน่าสนใจคือ MVP Token กำลังจะถูกเสนอขายให้กับให้ผู้ถือ Token ของ Moon Maker Protocol ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม DeFi ที่แรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ร่วมมือกับบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยการเปิดแนวทางใหม่ในการใช้ Digital Token ในฐานะสื่อกลางแทนเงินสด ความร่วมมือนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ DeFi และเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ในฐานะทางเลือกเพื่อแก้ไขปัญหาการใช้งานในโลกแห่งความจริง ไม่ใช่แค่ตลาดที่มีความผันผวนเหมาะสำหรับการเก็งกำไรเท่านั้น
การขาย MVP Token ให้กับให้ผู้ถือ Token ของ Moon Maker Protocol ถูกวางราคาไว้ที่ 0.0125 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 โทเคน จะเปิดทำการซื้อ-ขาย ในวันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน 2564 ตั้งแต่เวลา 20.00-22.00 น. ก่อนที่จะทำการเปิดตัวบนเครือข่าย Bitkub อย่างเป็นทางการ
สำหรับราคาเสนอขายบนเครือข่าย Bitkub นั้นจะมีมูลค่าสูงกว่าราคาที่เสนอขายผ่าน Moon Maker Protocol จำนวนสูงสุดในการซื้อ MVP สำหรับผู้ถือ MMP นั้นจะแบ่งไปตามจำนวน MMP ที่นักลงทุนแต่ละคนถืออยู่
ซึ่งนอกจากราคาที่ต่ำกว่าการซื้อผ่าน Bitkub Exchange แล้วนั้น การซื้อ MVP ผ่านเว็บไซต์ Moon Maker Protocol จะได้สิทธิพิเศษที่มากกว่า เนื่องจากทุกๆ การซื้อ 1 เหรียญ MVP ผู้ถือ MMP จะได้รับเหรียญ MMPMVP ซึ่งสามารถนำเหรียญนี้ไปขายหรือทำการ Farming เพื่อได้เหรียญ MVP ที่มากขึ้นอีกด้วย
ผู้สนใจสามารถติดตามข่าวสารความคืบหน้าเกี่ยวกับการเปิดตัว MVP รวมถึงวิธีการซื้อขายผ่าน Moon Maker Protocol ได้ที่:
- Website: http://bit.ly/tthestandard
- Telegram: https://t.me/Moonmakerprotocol
- Twitter: https://twitter.com/moonmakerpro
- Reddit: https://www.reddit.com/r/MoonMakerProtocol/
- Facebook: facebook.com/moonmakerprotocol
อ้างอิง: