제 멋에 취한 채. 그럼 좀 어때. 다 해도 돼 넌 Yeah
‘ดื่มด่ำกับความเป็นตัวเองให้สุด เพราะไม่มีอะไรผิด เธอจะเป็นตัวเองแบบไหนก็ได้ในแบบที่อยากเป็น’
นี่คือประโยคจากเพลง Don’t fight the feeling ที่สามารถสรุปการเดินทางในแบบของ EXO ที่กล้าก้าวเดินอย่างอิสระ ผลิตผลงานเพลงที่หลากหลายและแตกต่างในแบบของตัวเองตลอด 9 ปีที่ผ่านมาได้อย่างดีเยี่ยม
หลังจากเดบิวต์มากว่า 9 ปี EXO ก็ได้ปล่อยสเปเชียลอัลบั้ม Don’t fight the feeling ออกมาฉลองครบรอบการเดบิวต์ในวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการกลับมาในรอบ 2 ปีหลังจากอัลบั้มล่าสุดถูกปล่อยออกมาเมื่อปี 2019 การกลับมาครั้งนี้เป็นเหมือนการสรุปเรื่องราวการเติบโตและการเดินทางของ EXO ด้วยเพลงไตเติลอัลบั้มที่เล่าถึงเรื่องราวชีวิตวัยรุ่น ที่แม้จะต้องเผชิญหน้ากับตัวเลือกและอุปสรรคมากมาย แต่ก็ยังเลือกที่จะก้าวเดินไปในเส้นทางของตัวเองอย่างมั่นใจ
มิวสิกวิดีโอ Don’t fight the feeling ได้เผยให้เห็นลุคเท่ๆ ของ EXO ที่แฝงไปด้วยความทะเล้นและขี้เล่นในแบบของพวกเขา ซึ่งแตกต่างไปจากอัลบั้มล่าสุดอย่าง Obsession ที่นำเสนอภาพลักษณ์ในมุมที่เท่และดุดัน
มิวสิกวิดีโอเพลงนี้เป็นเรื่องราวภาคต่อของ EXO จากเพลง Power ในอัลบั้ม THE WAR: The Power of Music ที่พวกเขาแยกย้ายกันไปยังดาวต่างๆ ทั่วกาแล็กซี คราวนี้ EXO ได้กลับมารวมตัวเพื่อเดินทางท่องอวกาศด้วยกันอีกครั้ง พร้อมกับคำว่า ‘ประวัติศาสตร์’ ในภาษาต่างๆ ที่ปรากฏขึ้นมาในช่วงต้นของมิวสิกวิดีโอ และภาพอุกกาบาตพุ่งชนโลกที่สื่อถึง EXO ที่กำลังกลับมาสร้างประวัติศาสตร์ใหม่อีกครั้ง ต่อด้วยการเพิ่มจังหวะสนุกสนานและภาพที่ EXO รวมตัวกันในฐานทัพลับแห่งหนึ่ง
ความน่าสนใจของ Choreograph ในท่อนแรกคือการจับคู่เมมเบอร์แต่ละคนกับแบ็กอัพแดนเซอร์ แล้วค่อยๆ แพนกล้องไปหาเมมเบอร์ทีละคนจนครบเซ็ต ทำให้ได้เห็นถึงทักษะการเต้นที่ยอดเยี่ยมของแต่ละคนอย่างชัดเจนแบบที่ไม่ค่อยได้เห็นในมิวสิกวิดีโอเพลงอื่นๆ ของ EXO มากนัก เพราะปกติเรามักจะได้เห็นเมมเบอร์ทุกคนเต้นรวมกันเป็นส่วนใหญ่
ท่าเต้นโดยรวมในเพลงนี้จะเน้นไปที่ความทะเล้นและน่ารักของ EXO ซึ่งสามารถเรียกรอยยิ้มจากแฟนคลับได้ไม่ยาก เช่น ฉากในยานอวกาศที่ไคกำลังปั๊มหัวใจให้กับซิ่วหมิน ตรงกับเนื้อเพลงท่อนที่แปลว่า ‘ถึงคืนนี้มันจะแย่แค่ไหน แต่พรุ่งนี้ตื่นมาก็ต้องหายใจอยู่ดี’
นอกจากท่าเต้นที่สนุกสนาน ฉากสุดอลังการของฐานทัพยานอวกาศและความทะเล้นน่ารักของพวกเขา ในมิวสิกวิดีโอยังมี Hidden Message ที่ EXO ต้องการสื่อสารถึงความรักและคำขอบคุณที่พวกเขามีต่อ EXO-L (ชื่อแฟนคลับของ EXO) อย่างรหัสลับที่ปรากฏในฐานทัพ เช่น L-1485 โดยตัว L มาจากอักษรตัวสุดท้ายของชื่อแฟนคลับที่ย่อมาจากคำว่า Love และตัวเลข 1485 มาจากวันที่ 5 สิงหาคม 2014 ซึ่งเป็นวันประกาศชื่อแฟนคลับอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งรหัสลับที่ปรากฏในมิวสิกวิดีโอคือ E-408 ที่ E มาจาก EXO และ 408 คือ วันที่ 8 เมษายน หรือวันเดบิวต์ของพวกเขา
สิ่งสำคัญที่เติมเต็มอัลบั้มพิเศษชุดนี้ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น คือการกลับมาของ เลย์ หรือ จางอี้ชิง สมาชิกชาวจีนที่ได้กลับมามีส่วนร่วมในอัลบั้มอีกครั้งหลังจากห่างหาย
ไปเกือบ 3 ปี และถึงแม้จะต้องถ่ายทำจากคนละประเทศด้วยอุปสรรคที่เกิดจากโรคระบาด แต่ทีมงานก็สามารถตัดต่อออกมาได้อย่างลื่นไหลและสมบูรณ์แบบ รวมทั้งตอนจบของมิวสิกวิดีโอยังมีการตัดต่อให้เลย์ได้ร่วมเต้นกับเมมเบอร์คนอื่นๆ พร้อมกับขึ้น End Credit ชื่อสุดท้ายด้วย ‘With EXO-L’ เป็นการเติมเต็มของขวัญชิ้นพิเศษสำหรับแฟนคลับชิ้นนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ปิดท้ายมิวสิกวิดีโอด้วยภาพยานอวกาศของ EXO ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังที่ไหนสักแห่ง อาจจะเป็นมิติอื่นๆ ในจักรวาลของพวกเขา หรืออาจเป็นการบอกใบ้ถึงอัลบั้มต่อไป เหล่า EXO-L ก็คงต้องรอติดตามกันต่อไป แม้อาจจะยังไม่ใช่เร็วๆ นี้ แต่เชื่อว่าต่อให้นานขนาดไหน เหล่า EXO-L ก็คงตั้งตารอคอยการคัมแบ็กของ EXO และพร้อมที่จะร่วมออกเดินทางไปพร้อมกับพวกเขาอย่างแน่นอน
นอกจากเพลง Don’t fight the feeling ในสเปเชียลอัลบั้มชุดนี้ยังประกอบไปด้วยเพลงอื่นๆ อีก 4 เพลง ที่นำเสนอเรื่องราวการเดินทางและเสน่ห์ที่หลากหลายของ EXO ทั้ง Paradise เพลงป๊อปจังหวะสดใสที่เปรียบการตกหลุมรักเหมือนกับการได้ขึ้นสวรรค์, No Matter What เพลงที่ต้องการปลอบโยนทุกคนในตอนที่เหน็ดเหนื่อยกับชีวิตแสนวุ่นวาย, Just As Usual เพลงที่สื่อสารถึงแฟนคลับว่า EXO จะคอยอยู่เคียงข้างพวกเขาในช่วงเวลาที่โดดเดี่ยวเสมอ และในอัลบั้มนี้ EXO ยังได้โชว์ศักยภาพการร้องประสานที่เยี่ยมยอดผ่านเพลง Runaway อีกด้วย
รับชมมิวสิกวิดีโอเพลง Don’t fight the feeling ได้ที่
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
