YLG เผยสาเหตุราคาทองคำพุ่งตลอดทั้งเดือนมาจาก 2 ปัจจัย ทั้งคาดการณ์ Fed ไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ย-ลดวงเงินทำ QE แม้เงินเฟ้อจะพุ่งขึ้น บวกกับกองทุน SPDR เริ่มเข้าซื้อทองคำ และบิตคอยน์ดิ่งแรง คาดรอบนี้มีลุ้นแตะ 1,900 ดอลลาร์ แนะหากถึงเป้าหมายควรแบ่งขายทำกำไรบางส่วนออกมาก่อน เนื่องจากอาจมีแรงขายทำกำไรระยะสั้น เพราะราคาปรับขึ้นมาสูงแล้ว ส่วนคนไม่มีการถือครองแนะรอรับที่ 1,850-1,830 ดอลลาร์ พร้อมจับตาการประชุม Fed กลางเดือนหน้า
ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาด TFEX เปิดเผยว่า ในช่วงตลอดเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้บรรยากาศโดยรวมคึกคักทั้งในด้านของการซื้อขายออนไลน์ และการซื้อขายในตลาด TFEX รวมถึงเริ่มเห็นผู้คนเริ่มไปต่อคิวซื้อร้านทอง เนื่องจากมีกระแสว่าราคาจะปรับขึ้นไปอีก
ทั้งนี้การปรับขึ้นมาของราคาทองคำในช่วงนี้มาจาก 2 ปัจจัย ปัจจัยแรกมาจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจยังไม่เร่งรีบลดวงเงิน QE และขึ้นดอกเบี้ยแม้เงินเฟ้อพุ่งขึ้น และปัจจัยที่สองคือกองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุนทองคำขนาดใหญ่เริ่มกลับมาซื้อทองคำ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ทำการขายอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการปรับขึ้นของราคาทองคำในรอบนี้ YLG มองว่ามีโอกาสที่จะไปทดสอบแนวต้าน 1,900 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือประมาณ 28,200 บาทต่อบาททองคำ หากสามารถผ่านระดับสูงสุดสัปดาห์นี้ครั้งใหม่ที่ 1,889 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ไปได้
อย่างไรก็ตาม แนะนำให้นักลงทุนระมัดระวังแรงขายทำกำไรในระยะสั้น เพราะราคาได้ปรับขึ้นมามากพอสมควรแล้ว หากต้องการเข้าซื้อแนะนำรอจังหวะย่อลงมาที่แนวรับ 1,850 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ แนวรับถัดไป 1,830 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หรือประมาณ 27,450-27,150 บาท ต่อบาททองคำ
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่ต้องจับตามองคือการประชุมของ Fed ในกลางเดือนหน้าว่าจะส่งสัญญาณหรือมีความคืบหน้าเกี่ยวกับนโยบายดอกเบี้ย หรือการลดวงเงิน QE หรือไม่ เพราะหากสัญญาณออกมาตรงกันข้ามกับที่ตลาดคาดการณ์ ก็อาจจะกระทบต่อสถานการณ์ราคาทองคำได้
ส่วนปัจจัยในประเทศที่มีผลต่อราคาทองคำคือค่าเงินบาทที่อ่อนค่าในขณะนี้ ส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศปรับตัวขึ้นมาสูง ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ร้านทองต่างๆ มีความคึกคักเป็นพิเศษ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
