แคธี วูด เจ้าแม่นักลงทุนและผู้ก่อตั้ง ARK Investment Management หนึ่งในบริษัทด้านการลงทุนที่กำลังมาแรงที่สุดในเวลานี้ แสดงความเห็นกับสำนักข่าว Bloomberg โดยระบุชัดเจนว่า ยังคงเชื่อมั่นและพร้อมที่จะเดินหน้าลงทุนในบิตคอยน์ต่อไป แม้ว่ากระแสข่าวการสั่งแบนจากหน่วยงานรัฐของจีนกับการเปลี่ยนจุดยืนของ อีลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้ง Tesla ที่มีต่อบิตคอยน์ จะฉุดให้ราคาของบิตคอยน์ในช่วงหลายวันที่ผ่านมาดิ่งลงอย่างรุนแรง โดยล่าสุดร่วงหนักหลุดกรอบ 40,000 ดอลลาร์สหรัฐมาอยู่ที่ 38,000 ดอลลาร์สหรัฐแล้ว
โดยวูดคาดการณ์ว่า คริปโตเคอร์เรนซีตัวนี้มีแนวโน้มขยายตัวพุ่งขึ้นถึง 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่กว่าจะพลิกฟื้นกลับขึ้นมาได้ บิตคอยน์ก็อาจจะต้องร่วงลงทำสถิติต่ำสุดอีกหลายครั้ง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากทิศทางของตลาดที่นักลงทุนแห่เทขายหุ้นเพราะความกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งจะฉุดให้ราคาของบิตคอยน์ที่มีภาวะอ่อนไหวและผันผวนง่ายอยู่แล้วลดต่ำลงไปด้วยเช่นกัน
ในส่วนจุดยืนของ มัสก์ หัวหน้า ARK Investment Management กล่าวว่า เมื่อใดก็ตามที่มีการนำพลังงานหมุนเวียนหรือพลังงานสะอาดเข้ามาใช้ในกิจการขุดเหรียญคริปโตฯ อย่างจริงจัง ซึ่งแน่นอนว่าขณะนี้ก็เริ่มมีการพูดคุยกันบ้างแล้ว เมื่อถึงเวลานั้น เชื่อแน่ว่าเจ้าพ่อ Tesla ย่อมเปลี่ยนจุดยืนและหันกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศคริปโตฯ นี้อย่างแน่นอน
ขณะเดียวกันวูดยังคาดหวังว่า ทางการสหรัฐฯ จะอนุมัติให้กองทุน Bitcoin ETF เข้าร่วมในตลาดได้ภายในปีนี้ โดยชี้ว่าราคาของบิตคอยน์ที่ปรับตัวร่วงหนักในห้วงเวลานี้จะเป็นโอกาสที่ทำให้ Bitcoin ETF ได้รับความยินยอมจากทางการได้ง่ายขึ้น
ความเห็นครั้งนี้ยังมีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกับที่มีรายงานว่าวูดเดินหน้าเพิ่มการลงทุนในคริปโตฯ ด้วยการเข้าซื้อหุ้นของ Coinbase Global, Inc. ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าราคาหุ้น Coinbase จะร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา
การให้สัมภาษณ์กับทาง Bloomberg TV ในครั้งนี้ของวูดมีขึ้นท่ามกลางทิศทางขาลงของบิตคอยน์ โดยราคาบิตคอยน์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ดิ่งหนักกว่า 30% เกือบแตะระดับ 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ ก่อนที่จะฟื้นกลับขึ้นมาได้เล็กน้อยในช่วงปิดตลาดที่ 38,205.49 ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้นับตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ราคาบิตคอยน์ในตลาดลดลงไปแล้วมากกว่า 50% จากระดับสูงสุดที่ 64,829 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา
ราคาของบิตคอยน์ที่ร่วงหนักยังฉุดให้ราคาของสกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ร่วงตาม โดย Ether ร่วงหนักกว่า 22% มาอยู่ที่ 2,620.97 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ Dogecoin ลดลง 25% แตะระดับต่ำกว่า 36 เซนต์
อย่างไรก็ตาม แม้นักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยส่วนใหญ่จะเทขายสกุลเงินดิจิทัลในช่วงเวลานี้ แต่บรรดานักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ของตลาดต่างมีจุดยืนคล้ายคลึงกับวูด กล่าวคือ ยังคงเห็นว่าคริปโตเคอร์เรนซีเป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตและน่าลงทุนอยู่
โดยล่าสุด สถานีโทรทัศน์ BBC ของอังกฤษรายงานว่า Wells Fargo หนึ่งในธนาคารที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของสหรัฐฯ เตรียมเปิดตัวกองทุนซื้อขายบิตคอยน์ขึ้นมาโดยเฉพาะ และจะจำกัดเฉพาะนักลงทุนกระเป๋าหนักที่แบกรับความเสี่ยงสูงได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจากสภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูง โดย Wells Fargo ระบุชัดว่า ในมุมมองของธนาคาร เหรียญดิจิทัลเหล่านี้เปรียบเสมือนอีกหนึ่งทางเลือกของการลงทุนที่ต้องลงทุนด้วยความระมัดระวังอย่างมากเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Morgan Stanley กลายเป็นสถาบันการเงินขนาดใหญ่ชั้นนำของสหรัฐฯ รายแรกที่เสนอบริการจัดการการลงทุนในบิตคอยน์ให้กับลูกค้าระดับพรีเมียมของตน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
