วันนี้ (25 มีนาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงแผนบริหารจัดการวัคซีนต้านโควิด-19 ว่า ได้ให้บริการไปตามเป้าหมาย วัคซีนทยอยมาถึงประเทศไทยเรื่อยๆ และจะมาอีกล็อตใหญ่ใน 2 เดือน มาตรการการผ่อนคลายต้องขึ้นอยู่กับการกระจายวัคซีน และเรื่องของประสิทธิภาพของวัคซีน ซึ่งจะทราบผลกันได้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไป หลังจากที่ให้บริการเป็นหลักล้านโดสแล้ว เมื่อเราทราบว่าคนไทยมีภูมิคุ้มกันจึงจะพิจารณาคลายล็อก เพราะต้องดูเรื่องความปลอดภัยของประชาชน
ส่วนในเรื่องการคลายล็อกการเดินทางระหว่างประเทศ ได้ให้นโยบายว่า เบื้องต้นเราจะยอมรับประเทศที่ให้บริการวัคซีนที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ให้ความเชื่อมั่น และที่คณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ขึ้นทะเบียนไว้ก่อน ซึ่งมีหลายยี่ห้อแล้ว หากชาติคู่เจรจายอมรับหลักการตรงนี้ การเจรจาจะง่ายขึ้น
ส่วนการขึ้นทะเบียนวัคซีนในไทย อนุทินกล่าวว่า ได้รับรายงานจากเลขาธิการ อย. ว่า วัคซีนของ Johnson & Johnson ผ่านการขึ้นทะเบียนแล้ว เท่ากับว่าไทยมีวัคซีนที่ผ่านการขึ้นทะเบียน 3 ยี่ห้อ คือ Sinovac, AstraZeneca และล่าสุดคือ Johnson & Johnson
“ในการพิจารณาขึ้นทะเบียนล่าสุด ใช้เวลาพิจารณาประมาณ 2 เดือน เท่ากับว่าประเทศไทยไม่ได้เลือกวัคซีนแค่ตัวเดียวอย่างที่ถูกกล่าวหา แต่การขึ้นทะเบียนต้องขึ้นอยู่กับผู้ผลิตด้วย ถ้าพร้อมทำตามขั้นตอน ไทยต้องพิจารณาอยู่แล้ว สำหรับภาคเอกชน หากต้องการนำวัคซีนเข้ามา ให้ไปเจรจากับผู้ผลิตวัคซีน 3 ยี่ห้อเบื้องต้นนี้ ซึ่งผ่านการขึ้นทะเบียนในไทยแล้ว แต่ทางนั้นจะอนุญาตให้นำมาขายหรือไม่ เพราะตอนนี้ทางผู้ผลิตยังกำหนดให้ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินอยู่” อนุทินกล่าว
อนุทินกล่าวด้วยว่า หากผู้นำเข้ารับมา แล้วรับสภาพว่านี่คือการใช้ในภาวะฉุกเฉิน ความรับผิดชอบของผู้ผลิตมีจำกัด คนที่มาขอรับ ถ้ายอมได้ รับได้ กระทรวงสาธารณสุขก็ไม่ขัดขวาง แต่อยากทราบว่าเมื่อเอาเข้ามา แล้วจะไปให้บริการที่ไหน โรงพยาบาลก็แค่มาขอขึ้นทะเบียนการให้บริการ ถ้าทำสำเร็จถือเป็นคุณประโยชน์ให้กระทรวง ช่วยแบ่งเบางานกระทรวง
“แผนการเรื่องวัคซีน เรามองไปไกลถึงเรื่องเชื้อกลายพันธุ์ เป็นเหตุผลว่าทำไมเราค่อยๆ ทยอยซื้อ เพราะเราต้องคิดถึงการปรับแผนเผื่อสถานการณ์ไม่คาดฝันด้วย จากนี้ไทยจะมีทางเลือกอีกหลายทาง ก็ขอใช้โอกาสเลือกสิ่งที่ดีที่สุดดีกว่า วันนี้วัคซีนที่ดีที่สุดในโลกมันไม่มี มีแต่ที่เหมาะสมกับคนไทย มาในเวลาที่เหมาะสม ราคาอยู่ในจุดที่รับได้ ยิ่งกว่านั้น ถึงมาแล้วก็ใช่ว่าจะผ่านด่านของ อย. ได้ง่าย ดังนั้นหากอนุญาตให้ใช้ได้ แสดงว่ามีความปลอดภัยขั้นสูงสุดแล้ว” อนุทินกล่าว
อนุทินกล่าวด้วยว่า กระทรวงสาธารณสุขทำงานมาได้เกินเป้าที่ตั้งไว้ ต้องขอบคุณทุกท่านที่ร่วมด้วยช่วยกัน ทั้งเรื่องการพัฒนา การเข้าถึงวัคซีน และความรวดเร็ว วันนี้โจทย์คือการต้องฉีดวัคซีนให้เร็วบนพื้นฐานของความปลอดภัย รวมไปถึงการพิจารณาเรื่องมาตรการรองรับการเปิดประเทศในวันที่ต้องดำเนินการจริงๆ
พิสูจน์อักษร: ชนเนตร ลอยครุฑ