วันนี้ (23 มีนาคม) ที่ทำเนียบรัฐบาล สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และ รณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รวมแถลงข่าวมาตรการบรรเทาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
สุพัฒนพงษ์กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูและเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยหนึ่งในมาตรการสำคัญคือโครงการทัวร์เที่ยวไทย และโครงการเราเที่ยวด้วยกันระยะที่ 3 เป็นการปรับปรุงและเพิ่มเติมเพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการและปิดช่องการฉวยโอกาสการทุจริต
สำหรับโครงการทัวร์เที่ยวไทย จำนวน 1 ล้านสิทธิ์ วงเงิน 5,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนค่าเดินทางร่วมจ่าย 40% แต่ไม่เกิน 5,000 บาท โดยผู้ประกอบการต้องมาลงทะเบียนกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และจัดโปรแกรมท่องเที่ยวเฉพาะเที่ยววันธรรมดา จำนวน 3 วัน 2 คืน โดยระบุโรงงานและร้านอาหาร หรือ 12,500 บาทต่อโปรแกรม จำกัด 1,000 รายต่อ 1 บริษัททัวร์ ระยะเวลาโครงการเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2564
ทั้งนี้การชำระเงินต้องผ่านแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ กับ ‘ถุงเงิน’ เท่านั้น โดยการสแกนบาร์โค้ดและใบหน้า บริษัททัวร์ต้องสแกนสถานที่ด้วยเพื่อยืนยันว่ามีการท่องเที่ยวจริง
นอกจากนี้ ครม. ยังเห็นชอบปรับปรุงโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 วงเงินที่เหลืออยู่ 5,700 ล้านบาท โดยขยายสิทธิ์อีก 2 ล้านสิทธิ์ สามารถใช้เริ่มใช้สิทธิ์ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2564 เพราะธนาคารกรุงไทยต้องเตรียมระบบเพื่อไม่ให้เกิดการฉวยโอกาสการทุจริต
โดยผู้ประกอบการที่ร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 จะต้องดำเนินการให้ความยินยอมอีกครั้งในระบบ เพื่อให้ ททท. เข้าไปตรวจสอบและนำข้อมูลห้องพักที่จดทะเบียนไว้กับกระทรวงมหาดไทย เช่น จำนวนห้อง และช่วงราคาที่พักสูงสุดและต่ำสุด โดยผู้ร่วมโครงการต้องจองห้องพักล่วงหน้า 7 วัน เพื่อให้ธนาคารกรุงไทยส่งข้อมูลให้กับ ททท. เพื่อตรวจสอบความผิดปกติ เมื่อเข้าใช้จะมีการสแกนใบหน้า โดยจะมีข้อมูล GPS ติดตามด้วย
อย่างไรก็ตาม e-Voucher จากเดิม 900 บาทในวันธรรมดาและ 600 บาทในวันหยุด ปรับเป็นราคาเดียว 600 บาท และต้องเป็นการท่องเที่ยวข้ามจังหวัดเท่านั้น ทั้งนี้สาเหตุที่โครงการไม่สามารถเริ่มได้ทันช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้ เนื่องจากการเตรียมระบบเพิ่มเติม
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
