ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) ออกแนวปฏิบัติใหม่ โดยระบุว่า ประชาชนอเมริกันที่ได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 ครบจำนวนโดสแล้ว สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ในบางระดับ ซึ่งรวมถึงการพบปะผู้คนบางกลุ่มภายในสถานที่ปิดหรือในร่มได้ โดยไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือเว้นระยะห่างทางสังคม
ปัจจุบันมีชาวอเมริกันมากกว่า 30 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนครบจำนวนตามที่กำหนดแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ประกาศแนวปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยใหม่ในระหว่างการแถลงข่าวสรุปสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ (8 มีนาคม) ซึ่งข้อกำหนดต่างๆ ประกอบด้วย
- ประชาชนที่ฉีดวัคซีนครบแล้วสามารถพบปะผู้ที่ได้รับวัคซีนครบเช่นกันภายในสถานที่ปิดหรือในร่มได้ โดยไม่ต้องสวมหน้ากากหรือเว้นระยะห่างทางสังคม
- ประชาชนที่ฉีดวัคซีนครบแล้วสามารถพบปะคนที่ยังไม่ได้รับวัคซีนได้ หากคนเหล่านั้นมาจากบ้านเดียวกัน และมีความเสี่ยงต่ำที่จะเกิดอาการรุนแรงจากโควิด-19
- ประชาชนที่ฉีดวัคซีนครบแล้วสามารถข้ามการทดสอบหรือกักตัวเมื่อสัมผัสเชื้อโควิด-19 นอกเสียจากว่าจะเกิดอาการของโรคขึ้น
“เราเริ่มฉายภาพให้เห็นแล้วว่าโลกจะเป็นอย่างไรเมื่อเราก้าวเหนือกว่าโควิด-19” แอนดี สเลวิตต์ ที่ปรึกษาอาวุโสของ CDC กล่าวกับผู้สื่อข่าว “เมื่อคนได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ลิสต์กิจกรรมต่างๆ ก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ”
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วยังต้องปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยขั้นพื้นฐานอยู่ เช่น การสวมหน้ากากและเว้นระยะห่างเมื่ออยู่ในสถานที่สาธารณะ รวมถึงหลีกเลี่ยงฝูงชนขนาดใหญ่และการเดินทาง
ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนยังคงต้องสวมหน้ากากและเว้นระยะห่างกับผู้ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน รวมถึงผู้ที่มีความเสี่ยงเกิดอาการรุนแรงจากโควิด-19 ด้วย
สหรัฐฯ กำลังเดินหน้าฉีดวัคซีนให้ประชาชนในอัตราที่เร็วขึ้น หลังองค์การอาหารและยา (FDA) ได้อนุมัติให้ใช้งานวัคซีนของ Johnson & Johnson เป็นกรณีฉุกเฉินเพิ่มเติม ส่งผลให้มีอุปทานมากขึ้น โดย ณ เวลานี้มีประชาชนกว่า 90 ล้านคนที่ได้รับวัคซีนแล้วอย่างน้อย 1 เข็ม ขณะที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แสดงความเชื่อมั่นก่อนหน้านี้ว่า สหรัฐฯ จะมีวัคซีนพร้อมฉีดให้ประชาชนครบทุกคนภายในสิ้นเดือนพฤษภาคม
ภาพ: Michael Ciaglo / Getty Images
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: