วันนี้ (22 กุมภาพันธ์) อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยกรณีการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เข็มแรกว่า ต้องขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่แสดงเจตนารมณ์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนคนไทยด้วยการอาสาที่จะฉีดวัคซีนเป็นเข็มแรก แต่อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินการทั้งหมดขึ้นอยู่กับมาตรการความปลอดภัยและดุลพินิจของแพทย์ ซึ่งวัคซีนแต่ละชนิดมีข้อบ่งใช้แตกต่างกัน
“ในกรณีของท่านนายกรัฐมนตรี ผมไม่เคยพูดว่าท่านจะฉีดวัคซีนของ Sinovac แต่ท่านแค่แสดงเจตนารมณ์ว่าจะฉีดเข็มแรกเพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นในความปลอดภัยของวัคซีนเท่านั้น ซึ่งทุกอย่างต้องเป็นไปตามข้อกำหนด ไม่มียกเว้น” อนุทินกล่าว
ด้าน นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เผยว่าการให้วัคซีนต้องคำนึงถึงมาตรการที่ผู้ผลิตวัคซีนแต่ละบริษัทกำหนด ส่วนการบริหารจัดการวัคซีน เรามีคณะกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งมี นพ.โสภณ เมฆธน เป็นประธาน มีคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ และยังมีผู้เชี่ยวชาญอีกจำนวนมากที่เข้ามาช่วยกำหนดเกณฑ์ต่างๆ ในการฉีดวัคซีนทุกเข็มให้มีความปลอดภัยสูงสุด
สำหรับวัคซีนซึ่งจะเข้ามาในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้เป็นของบริษัท Sinovac ซึ่งมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ในการฉีดอยู่แล้ว ประกอบด้วยอายุ ซึ่ง Sinovac กำหนดไว้ว่าผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับวัคซีนต้องมีอายุระหว่าง 18-59 ปี ไม่สามารถฉีดในผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีหรือมากกว่า 59 ปีได้ เนื่องจากยังไม่มีผลการวิจัยที่เพียงพอมารองรับ นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดไม่ให้ฉีดในหญิงตั้งครรภ์หรือผู้ที่เคยแพ้วัคซีนมาก่อนอีกด้วย
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์