×

ธอส. เผยปี ‘63 สินเชื่อใหม่ยังโต 4.57% ทะลุเป้า 2.2 แสนล้านบาท

29.01.2021
  • LOADING...
ธอส.

ฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในปี 2563 ที่ผ่านมา แม้จะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ธนาคารยังมียอดเงินสินเชื่อปล่อยใหม่ 225,151 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.57% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคิดเป็น 140,386 บัญชี และถือเป็นยอดสินเชื่อสูงที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งธนาคารมา (67 ปี) แบ่งเป็นสินเชื่อปล่อยใหม่สำหรับผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง (วงเงินกู้ไม่เกิน 2 ล้านบาท) 88,007 ราย

 

ทั้งนี้ ปี 2563 ธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้างรวมทั้งสิ้น 1.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.18% มีสินทรัพย์รวม 1.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.41% เงินฝากรวม 1.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% และมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) รวม 47,572 ล้านบาท คิดเป็น 3.60% ของยอดสินเชื่อรวม ลดลงจากปี 2562 ที่มี NPL อยู่ที่ 4.09% เป็นผลมาจากการจัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกค้าของธนาคารที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งทำมาต่อเนื่องจากต้นปี 2563 ส่งผลให้การเกิด NPL อยู่ในอัตราที่ลดต่ำลง ซึ่งในปี 2563 ธอส. ช่วยเหลือลูกค้าผ่าน 10 มาตรการ มีจำนวนสูงสุด 687,489 บัญชี เงินต้นคงเหลือ 576,139 ล้านบาท 

 

อย่างไรก็ตามในปี 2563 ธนาคารมีกำไรสุทธิ 10,494 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 2,858 ล้านบาท หรือ 21.41% เนื่องจากธนาคารลดอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำลง เพื่อช่วยเหลือลูกค้า ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ยังอยู่ที่ระดับแข็งแกร่งมากที่ 15.30% (ณ พฤศจิกายน 2563) สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด

 

ขณะเดียวกันธนาคารยังได้ทยอยตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่ม เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับผลกระทบจากโควิด-19 ในอนาคต และเพื่อรองรับมาตรฐาน TFRS 9 เป็นจำนวน 96,456 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.18% หรือคิดเป็นสัดส่วนต่อ NPL สูงถึง 202.76% สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของธนาคาร และความพร้อมในการรองรับผลกระทบจากโควิด-19 ในอนาคต 

 

“ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธนาคารยังคงปล่อยสินเชื่อได้สูงกว่าเป้าหมาย แม้เกิดปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปีที่ผ่านมา คือ ธอส. นำเงินที่ได้จากการจำหน่ายสลากออมทรัพย์ มาออกผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าตลาด และตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละอาชีพ ทั้งผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Social Solution สำหรับผู้มีรายได้น้อย อาทิ มาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของ ธอส. ยอดอนุมัติและทำนิติกรรมสูงสุดถึง 28,540 ล้านบาท โครงการบ้าน ธอส. เราไม่ทิ้งกัน 28,900 ล้านบาท ขณะที่สินเชื่อในกลุ่ม Business Solution สำหรับผู้มีรายได้ระดับปานกลางขึ้นไป ผลิตภัณฑ์ที่มียอดอนุมัติและทำนิติกรรมสูงสุดคือ สินเชื่อ D Plus ไตรมาส 3-4 จำนวน 21,970 ล้านบาท รวมถึงแรงส่งจากมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองเหลือ 0.01% สำหรับการซื้อขายที่อยู่อาศัยราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท และการจัดทำโปรโมชันกระตุ้นการขายของผู้ประกอบการภาคอสังหาริมทรัพย์” 

 

สำหรับปี 2564 ธอส. จะยกระดับบริการธนาคารสู่ Digital Service Bank ในปี 2564 และก้าวไปสู่การเป็น Digital Bank อย่างเต็มรูปแบบในปี 2566 โดยตั้งเป้าลดจำนวนธุรกรรมที่เคาน์เตอร์ภายในสาขาให้เหลือ 5% ของจำนวนธุรกรรมทั้งหมด ส่วนจำนวนธุรกรรมผ่านเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ อาทิ ตู้ชำระเงินกู้ LRM หรือ QR Non Cash Payment ที่หน้าสาขาเหลือ 15% และเพิ่มจำนวนธุรกรรมผ่าน Application: GHB ALL เป็น 80% ภายในปี 2565 ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการ GHB New Normal Services ในเฟสที่ 3 ซึ่งมีกำหนดให้บริการในเดือนมีนาคม 2564 รวมถึงเดินหน้าโครงการ Virtual Branch ให้ลูกค้าทำธุรกรรมออนไลน์ จะเปิดตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม 2564 มีเป้าหมายปล่อยสินเชื่อใหม่ผ่านโครงการรวม 10,000 ล้านบาท และเตรียมจำหน่ายสลากออมทรัพย์ ธอส. ชุดใหม่ เพื่อทำผลิตภัณฑ์สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำ ตั้งเป้าสินเชื่อปล่อยใหม่จำนวน 215,641 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% จากเป้าหมายในปี 2563 สินเชื่อคงค้างที่ 1.37 ล้านบาท 

 

ขณะที่มาตรการช่วยเหลือโควิด-19 รวมของ ธอส. รอบใหม่มี 4 มาตรการ (ณ วันที่ 28 มกราคม 2564) มีลูกค้าลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการแล้วรวมจำนวนกว่า 102,000 บัญชี เงินต้นคงเหลือ 95,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ลูกค้าต้องการเข้าร่วมโครงการสามารถสอบถามที่ ธอส. ได้ทุกช่องทาง

 

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X