วันนี้ (24 มกราคม) การแข่งขันศึก UFC 257 : Poirier vs. McGregor 2 ที่กรุงอาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คู่เอกของรายการเป็น คอเนอร์ แม็กเกรเกอร์ นักสู้สัญชาติไอริชที่เพิ่งกลับมาเซ็นสัญญากับ UFC ครั้งที่ 3 พบกับ ดัสติน พัวริเยร์ คู่ปรับเก่าชาวอเมริกันที่เคยพบกันมาแล้วหนึ่งครั้ง ซึ่งเป็นฝ่ายแม็กเกรเกอร์ที่เอาชนะไปได้ในครั้งนั้น
พอมาในไฟต์นี้ แม้ว่ายกแรกแม็กเกรเกอร์จะสามารถแก้เกมหนีรอดพ้นเกมบนพื้น หลังจาก ดัสติน พัวริเยร์ เทกดาวน์รวบลงมาใช้เกมปล้ำ รวมถึงสามารถออกหมัดได้อย่างแม่นยำ ทำให้ยกแรกนักสู้ชาวไอริชดูดีกว่าอย่างชัดเจน
ยกที่สอง พัวริเยร์ยังคงอาศัยจังหวะเตะล่างเข้าใส่ขาแม็กเกรเกอร์ จนพบจังหวะเข้าทำ ออกหมัดรัวเข้าใส่แม็กเกรเกอร์จนล้มลงไป และกรรมการผู้ตัดสินต้องเข้ามายุติการชก โดยเป็นฝ่ายพัวริเยร์ที่เอาชนะแบบ TKO ไปในยกที่ 2 ทำให้สถิติการพบกันของทั้งคู่เสมอกันที่ 1-1 ไฟต์
หลังการชกแม็กเกรเกอร์ยอมรับว่า การที่เขาห่างหายจากการชกไปเป็นเวลานาน ส่งผลกระทบอย่างหนักในไฟต์นี้ รวมถึงแผนการชกของพิวริเยร์ที่เตะใส่ขาต่อเนื่องก็ประสบผลสำเร็จในไฟต์นี้ ด้านฝ่ายพิวริเยร์ก็ยืนยันว่า ทั้งคู่ต้องกลับมาพบกันอีกครั้ง เนื่องจากในตอนนี้สถิติการพบกันเสมอกันอยู่ที่ 1-1 ไฟต์
สำหรับแม็กเกรเกอร์ ก่อนหน้านี้เมื่อตอนช่วงต้นปี 2020 เขาได้ประกาศเลิกชกไปแล้วเป็นรอบที่ 2 หลังจากที่ชนะน็อก โดนัลด์ เซอร์โรน โดยให้เหตุผลเรื่องการระบาดของโควิด-19 บวกกับหาคู่ต่อสู้ไม่ได้ ก่อนที่จะหวนกลับมาเซ็นสัญญากลับสู่สังเวียนอีกครั้ง และการคืนสังเวียนครั้งนี้ของเขาก็ส่งผลกระทบให้เห็นอย่างชัดเจนว่าการห่างจากสังเวียนเป็นเวลา 1 ปี ส่งผลอย่างไรต่อการขึ้นชกศึก UFC ของเขา
ขณะที่สถิติการชกของ คอเนอร์ แม็กเกรเกอร์ ตอนนี้อยู่ที่ชนะ 22 ครั้ง และแพ้ 5 ครั้ง โดยเป็นการแพ้ในศึก UFC เป็นครั้งที่ 3 ต่อจาก เนท ดิแอซ และ คาบิบ นูร์มาโกเมดอฟ
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
