ผลสำรวจความเห็นโดย China Beige Book ที่เผยแพร่เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา พบว่าผู้นำภาคธุรกิจจำนวนมากมองว่าเศรษฐกิจจีนยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่จากวิกฤตโควิด-19 และอาจต้องใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าจะกลับสู่จุดที่เคยเป็นก่อนเกิดโรคระบาด
China Beige Book รวบรวมความเห็นจากการสัมภาษณ์ผู้นำในภาคธุรกิจของจีนกว่า 3,300 คน ในช่วงระหว่างวันที่ 12 พฤศจิกายน-11 ธันวาคม โดย 2 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสอบถามไม่เชื่อว่ายอดขาย ผลกำไร และการจ้างงานจะกลับคืนสู่จุดที่เคยเป็นก่อนหน้าที่จะเกิดโรคระบาดโควิด-19 ในปี 2019 และอาจต้องรอไปอีกอย่างน้อย 3 เดือนนับจากนี้
ก่อนหน้านี้คณะผู้นำจีนได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตในภาพรวมของเศรษฐกิจจีน แม้ว่านักเศรษฐศาสตร์จำนวนหนึ่งคาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ของจีนจะขยายตัวราว 2% ในปีนี้ ซึ่งสวนทางกับหลายประเทศที่ยังดิ้นรนต่อสู้กับภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากวิกฤตโควิด-19 แต่ผู้บริโภคในจีนยังคงใช้จ่ายต่ำกว่าปีที่แล้ว ขณะที่ประชาชนจำนวนมากวิตกถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต
China Beige Book พบว่าในไตรมาส 4 ยอดขายสินคัาลักชัวรี อาหาร และเสื้อผ้าลดฮวบลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่ในทางตรงกันข้าม ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ และผู้ค้าเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าชี้ว่าครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวยกว่าได้กระตุ้นการบริโภคโดยรวม โดยการใช้จ่ายกับสินค้าราคาแพงมากขึ้น
ส่วนในภาคบริการนั้น China Beige Book พบว่าการเติบโตในไตรมาส 4 ไม่ได้ขับเคลื่อนจากผู้บริโภค แต่มาจากอุตสาหกรรมที่ตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจ เช่น ระบบโทรคมนาคม การขนส่ง และบริการทางการเงิน
เช่นเดียวกับเชนร้านอาหารก็ไม่ได้เติบโตมากนัก ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวหยุดชะงัก ส่วนโรงแรมมีผลประกอบการที่อ่อนแอที่สุดเป็นประวัติการณ์
ส่วนการส่งออกแม้ว่าจะขยายตัวดีขึ้น แต่การนำเข้าของจีนได้หยุดชะงักลงนับตั้งแต่เริ่มฟื้นตัวจากภาวะโรคระบาดในไตรมาสแรก
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล
อ้างอิง:
