ทันทีที่ได้สัมผัสรสชาติ คำที่จะนิยามความรู้สึกของเราได้ดีที่สุดก็คือ ‘อร่อยและกลมกล่อม’ เมื่อได้รู้ว่านี่คือน้ำมะพร้าว 100% ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาลแม้แต่นิด แถมชื่อแบรนด์ยังหันมาตั้งคำถามกับคนที่กำลังชื่นใจกับรสชาติว่า ‘R U COCO?’ (อาร์ ยู โคโค่) ยิ่งทำให้เราอยากทำความรู้จักน้ำมะพร้าวกล่องสีฟ้านี้มากขึ้น เพื่อหาคำตอบของเรื่องราวที่อยู่หลังเครื่องหมายคำถามนั้น
R U COCO? เป็นแบรนด์น้ำมะพร้าว 100% มีแนวคิดว่า ‘ดี…ที่นิยามเอง’ เกิดขึ้นจากความตั้งใจของบริษัท ซี.พี. ฟู้ดสโตร์ จำกัด หรือที่เรารู้จักกันดีในนาม ‘ข้าวตราฉัตร’ แบรนด์ที่คลุกคลีอยู่กับเกษตรกรไทย และมองเห็นโอกาสว่านอกเหนือจากข้าวแล้ว มะพร้าวก็เป็นอีกหนึ่งพืชผลที่น่าสนใจในการจุดประกายคุณภาพชีวิตของเกษตรกรและผู้ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนี้ให้ดีขึ้น สามารถสู้ในสนามแข่งขันเวทีโลกได้ จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจในการส่งมอบสิ่งที่ดีให้กับโลกใบนี้ผ่านน้ำมะพร้าว และนำมาสู่การตั้งทีมเฉพาะกิจนำโดย ดร.วรรณวิรัช วิรัชนิภาวรรณ ผู้บริหารหญิงสายลุยที่เราสามารถพบเจอเธอได้ตามสวนมะพร้าว
“ทุกคนรู้ว่ามะพร้าวทำได้หลายอย่าง ทั้งน้ำมะพร้าว นมมะพร้าว หรือแม้แต่เครื่องสำอาง เราเองก็ตั้งใจที่จะเชิดชูในความสารพัดประโยชน์ของมะพร้าว เพราะปลายทางของเราคือตั้งใจจะใช้ทุกส่วนของมะพร้าวส่งต่อถึงทุกคนอยู่แล้ว แต่ที่เราตั้งต้นจากน้ำมะพร้าวเพราะมันเข้าใจง่าย อยากดื่มเมื่อไรก็ดื่มได้” ดร.วรรณวิรัช ในตำแหน่งรองกรรมการธุรกิจมะพร้าวแห่ง ซี.พี. ฟู้ดสโตร์ เริ่มไขคำตอบให้เราไปทีละข้อ “เราสร้างสรรค์น้ำมะพร้าวขึ้นมาจากความตั้งใจ คัดสรรสายพันธุ์ที่ดี คือมะพร้าวน้ำหอมและมะพร้าวเบญจพรรณ ชิมจนได้รสชาติที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด ควบคุมการผลิตอย่างเข้มข้นให้ได้รสชาติอร่อยกลมกล่อมโดยไม่ต้องผสมน้ำตาล ไม่เติมสารให้ความหวานใดๆ ไม่แต่งกลิ่น ไม่แต่งสี ไม่ใส่สารกันบูดกันเสีย และต้องเป็นความอร่อยที่รับรู้ร่วมกันทั่วโลก”
น้ำมะพร้าวในบรรจุภัณฑ์ขวดกระดาษสีฟ้าที่ถือง่ายสบายมือ พูดกับเราด้วยรูปร่างหน้าตาและภาษาสากลตั้งแต่แรกเห็นว่า ‘R U COCO?’ แต่ครั้นจะให้เราตอบกลับตามความรู้สึกจริงๆ ก็คงจะต้องขอทำความรู้จักกันมากขึ้นกว่านี้อีกนิด
“R U COCO? มาจากการที่เราอยากสร้างแบรนด์ที่เป็นไลฟ์สไตล์ ที่เมื่อนึกถึงหรือได้สัมผัส จะรู้สึกเป็นภาพของคนรุ่นใหม่ เวลาชื่อแบรนด์เป็นเครื่องหมายคำถาม คนจะสงสัยและตั้งคำถาม ซึ่งนั่นเป็นความตั้งใจของเราที่จะถือโอกาสถ่ายทอดเรื่องราวของเรา เราอยากสร้าง The Coco Culture ที่ Appreciate the Good Vibes ไปสู่ทุกคนที่เกี่ยวข้องตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ โลโก้ของเราสื่อสารในลักษณะของ Global Brand เห็นแล้วรู้สึกพรีเมียม เราตั้งใจใช้ลายเส้นสายรุ้งแบบเขียนมือ อาจดูไม่สมมาตร แต่มันดูเป็นธรรมชาติ สายรุ้งมีหลายเฉดก็เพราะสะท้อนความหลากหลาย ยอมรับทุกความแตกต่าง เหมือนกับที่น้ำมะพร้าวของเราตั้งใจจะไปผงาดในเวทีโลก คือถ้าเราไปยืนในตลาดโลก เราโดดเด่นแน่นอน อีกทั้งมันยังผูกโยงไปยังรากเหง้าของเราคือ ข้าวตราฉัตร ซึ่งก็คือ Royal Umbrella เป็นความไม่ตั้งใจที่ลงตัวพอดี นอกจากนี้เรายังสร้างความแตกต่างด้วยการทำบรรจุภัณฑ์เป็นสีฟ้าเพื่อสื่อถึงความรู้สึกของน้ำดื่ม เพราะเราไม่ใช่น้ำผลไม้ แต่เราเป็นเหมือนน้ำดื่มที่มาจากรสธรรมชาติ เป็นน้ำมะพร้าวที่ดื่มได้ทุกโอกาส เราไม่ได้เกิดในห้องแล็บ แต่เราเกิดในสวนมะพร้าว” ดร.วรรณวิรัช เผยให้ทราบถึงความเป็นอาร์ ยู โคโค่ พร้อมกับบอกเล่าถึงความตั้งใจจริงที่จะให้น้ำมะพร้าวแท้จากธรรมชาติเข้าไปอยู่ในชีวิตของผู้คน
“ความตั้งใจแรกของเราคือการได้ทำเครื่องดื่มที่ดีที่เข้าไปอยู่ในไลฟ์สไตล์ของคน ในขณะเดียวกันผู้เกี่ยวข้องที่อยู่ในห่วงโซ่ก็ต้องได้รับประโยชน์ร่วมกัน ต้องยอมรับว่าเทรนด์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนวิกฤตโรคระบาดคือเทรนด์รักสุขภาพ เมื่อมีโควิด-19 เกิดขึ้น มันจึงเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาทุกอย่าง เพื่อให้เราส่งมอบสิ่งดีๆ ไปสู่ผู้บริโภคให้เร็วที่สุด อาร์ ยู โคโค่ จึงเกิดขึ้นภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือน”
แม้จะใช้เวลาอันสั้น แต่ อาร์ ยู โคโค่ ก็ผ่านการคิดอย่างเข้มข้นและครอบคลุมในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่แนวคิด การผลิต การสื่อสาร กลุ่มเป้าหมาย ตลาดที่จะมุ่งไป การเลือกใช้งานบรรจุภัณฑ์ แม้กระทั่งขนาดบรรจุ 330 มิลลิลิตร ก็ถูกไตร่ตรองมาแล้วก่อนส่งถึงมือผู้บริโภค
“เราตัดสินใจเริ่มต้นส่งอาร์ ยู โคโค่ สู่ตลาดด้วยขนาด 330 มิลลิลิตร ในราคา 25 บาท ซึ่งมีเพียง 50 กิโลแคลอรี ทั้งกล่องมีความหวานจากมะพร้าวแค่ 9 กรัม เพราะคิดมาแล้วว่าเป็นปริมาณที่พออิ่มน้ำในมื้อหนึ่ง และถ้าเป็นสายสุขภาพที่ชอบดื่มโปรตีนเชค ปริมาณนี้ก็จะพอดีต่อการผสมเพื่อดื่ม อนาคตจะเพิ่มขนาดขึ้นแน่นอน แต่ตอนนี้เราอยากทำไซส์นี้เพื่อให้สามารถเข้าไปอยู่ในชีวิตคน ถือง่าย สบายมือ เราเป็นเครื่องดื่มทางเลือกที่ดีต่อคุณและดีต่อโลก แม้แต่การเลือกแพ็กเกจจิ้ง เราก็ใส่ใจ อยากช่วยโลกลดการใช้ขวดพลาสติก ลดกระบวนการผลิตที่ปล่อยคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เราจึงใช้ขวดที่สามารถปลูกทดแทนและรีไซเคิลได้ อีกทั้งบรรจุภัณฑ์แบบนี้ถ้ายังไม่เปิดจะสามารถเก็บได้ในอุณหภูมิห้องถึง 1 ปี เรามั่นใจในคุณภาพของโปรดักต์นี้ จึงอยากให้ทุกคนได้สัมผัสเพื่อรับรู้ร่วมกันว่าอาร์ ยู โคโค่ เป็นมากกว่าแค่น้ำมะพร้าว”
อันที่จริง อาร์ ยู โคโค่ ปล่อยลงตลาดให้ผู้คนได้สัมผัสมาแล้วสักระยะหนึ่ง โดยมี 7-Eleven เป็นช่องทางหลักในการจำหน่าย ซึ่งเป็นการโปรโมตแบบไม่ใช้พรีเซนเตอร์ ด้วยเหตุผลที่ว่าทุกคนที่ดื่มสามารถเป็นพรีเซนเตอร์ได้ทั้งหมด เหมือนกับเวลาที่มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้น ทุกคนก็จะอยากส่งต่อไปสู่กลุ่มคนที่รักเอง
เห็นได้ชัดจากแผนการตลาดว่าแบรนด์ของคนไทยจากมะพร้าวไทยแบรนด์นี้มีความมุ่งมั่นที่จะส่งมอบสิ่งดีๆ สู่คนทั้งโลก แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ในต่างประเทศ หากจัดแคมเปญสื่อสารการตลาดอาจเป็นเรื่องยากลำบากในเวลานี้ จึงออกสตาร์ทตลาดต่างประเทศในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านก่อน รวมถึงสิงคโปร์ ฮ่องกง จีน โดยใช้เรื่องราวของความเป็นอาร์ ยู โคโค่ สื่อสารออกไปเช่นเดียวกับในไทย และเมื่อสถานการณ์ในสหรัฐอเมริกาและยุโรปดีขึ้น อาร์ ยู โคโค่ ก็จะค่อยๆ เข้าไปสร้าง The Coco Culture ให้มากขึ้น
“ตลาดใหญ่จริงๆ ของน้ำมะพร้าวอยู่ที่สหรัฐอเมริกา เราอาจจะยังไม่สามารถเปิดตัวได้ตอนนี้ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 แต่เราจะวิเคราะห์สถานการณ์แบบเรียลไทม์ ถ้าช่วงเวลาไหนเหมาะสม เราเข้าไปอย่างแน่นอน เพราะเรามีเป้าหมายที่จะไปสู่เวทีโลกอยู่แล้ว ถ้ามองในแง่สัดส่วนการตลาด ต้องบอกว่าเราไม่ได้มองตัวเองว่าเป็นน้ำมะพร้าว เพราะไซส์ตลาดน้ำมะพร้าวในตลาดจะค่อนข้างเล็ก แต่เรามองตัวเองว่าเป็นน้ำดื่มที่ทำจากมะพร้าว เราจึงตั้งเป้ายอดขายภายในประเทศในปี 2021 ไว้ 200 ล้านบาท ส่วนตลาดต่างประเทศเมื่อพิจารณาร่วมกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เรามั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของเรามีโอกาสเติบโตสูง จึงตั้งเป้าไว้ที่ 500 ล้านบาท”
ไม่ว่านิยามเมื่อได้ชิมน้ำมะพร้าว อาร์ ยู โคโค่ ของคุณจะเป็นอย่างไร แต่เมื่อใดที่คุณได้ถือขวดน้ำมะพร้าวสีฟ้าอยู่ในมือ เราคือคอมมูนิตี้เดียวกัน เพราะเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ แล้วนึกย้อนไปสู่คำถามที่ว่า R U COCO? ในตอนแรก เราคิดว่าเรามีคำตอบแล้ว
และคำตอบของเราคือ YES, WE R COCO
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า