ชาวอเมริกันในหลายเมืองออกมาเดินขบวนประท้วงตามถนนในวันพุธ (4 พฤศจิกายน) ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมถือป้ายข้อความ ‘Count Every Vote’ เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่นับคะแนนบัตรเลือกตั้งทุกใบ พร้อมแสดงความไม่พอใจที่หลายรัฐนับคะแนนล่าช้า นอกจากนี้ในโซเชียลมีเดียยังเกิดแฮชแท็ก #CountEveryVote ด้วยเช่นกัน
กระแสประท้วงเกิดขึ้นหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามยื่นฟ้องร้องต่อศาลสูงสุด เพื่อให้ระงับการนับคะแนนในหลายรัฐ รวมถึงรัฐสวิงสเตทอย่าง มิชิแกน เพนซิลเวเนีย และจอร์เจีย โดยทรัมป์อ้างปัญหาความไม่โปร่งใส ซึ่งรวมถึงการที่ทีมแคมเปญของรีพับลิกันถูกปฏิเสธไม่ให้ผู้สังเกตการณ์ของพรรคเข้าร่วมจับตาการนับคะแนน
ขณะที่สถานการณ์ประท้วงในหลายเมือง บานปลายเป็นการก่อความวุ่นวายไปจนถึงก่อจลาจลและปะทะกับตำรวจ ซึ่งที่เมืองมินนิแอโปลิส รัฐมินนิโซตา ตำรวจจับกุมกลุ่มผู้ประท้วงหลายคนที่พยายามปิดถนนประท้วง
ส่วนที่เมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน การประท้วงทวีความรุนแรง มีการทุบทำลายหน้าต่างร้านค้า และเกิดการปะทะกับตำรวจและเจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิที่ถูกส่งไปควบคุมสถานการณ์
เช่นเดียวกับที่นิวยอร์ก ผู้ประท้วงหลายร้อยคนร่วมเดินขบวนไปตามถนนในย่านแมนฮัตตัน พร้อมตะโกนให้มีการนับคะแนนเลือกตั้งทั้งหมด ซึ่งเหตุการณ์บานปลายเป็นความรุนแรง หลังเกิดการปะทะกับตำรวจ ขณะที่มีผู้ถูกจับกุมกว่าสิบคน
นอกจากกลุ่มต่อต้านทรัมป์แล้ว กลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์ ในหลายเมืองที่ยังนับคะแนนไม่เสร็จสิ้น ก็พยายามจับตาการนับคะแนนอย่างใกล้ชิด และเรียกร้องให้มีการหยุดนับคะแนนในบางหน่วยนับคะแนน
โดยที่เมืองฟินิกซ์ รัฐแอริโซนา กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ราว 150 คน พากันไปชุมนุมหน้าหน่วยนับคะแนน เพื่อติดตามผลนับคะแนนที่อาจชี้วัดผลลัพธ์ของการเลือกตั้ง (สำหรับรัฐแอริโซนานั้น สำนักข่าวอย่าง AP ออกผลการคาดการณ์นับคะแนนโดยยกให้ไบเดนชนะ แต่การนับคะแนนอย่างเป็นทางการยังไม่เสร็จสิ้น)
ส่วนที่เมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ก็ไปร่วมชุมนุมที่ศูนย์นับคะแนน เพื่อเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่หยุดการนับคะแนน หลังมีการประกาศให้โจ ไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต คว้าชัยชนะไปก่อนหน้านี้ ซึ่งทางทีมหาเสียงของทรัมป์ก็ยื่นฟ้องต่อศาลขอให้ระงับการนับคะแนนในรัฐนี้ด้วยเช่นกัน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: