หลังจากที่ช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทวิตเตอร์ (Twitter) ได้เริ่มให้ผู้ใช้งานบางรายทดสอบฟีเจอร์ทวีตข้อความสูงสุด 280 ตัวอักษร จากเดิมที่ทวีตได้แค่ 140 ตัวอักษร ล่าสุดเมื่อช่วงกลางดึกของวันอังคารที่ 7 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศสหรัฐอเมริกา ทวิตเตอร์ก็ได้ประกาศปลดล็อกให้ผู้ใช้งานทุกคนสามารถใช้ฟีเจอร์พิมพ์ข้อความ 280 ตัวอักษรได้แล้ว!
เดิมทีทวิตเตอร์เก็บข้อมูลแล้วพบว่าการพิมพ์ข้อความแค่ 140 ตัวอักษรในบางภาษาเป็นไปด้วยความยากลำบาก ผู้ใช้งานจำเป็นจะต้องแยกข้อความของพวกเขาออกเป็น 2 ท่อนก่อนทวีต ด้วยเหตุนี้เอง ทวิตเตอร์จึงเปิดการทดสอบฟีเจอร์พิมพ์ 280 ตัวอักษรเป็นระยะเวลากว่า 2 เดือน ก่อนจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจจนเป็นที่มาของการเปิดให้ผู้ใช้งานทุกคนได้สัมผัสฟีเจอร์นี้
สำหรับประเด็นที่ผู้ใช้งานทวิตเตอร์กำลังกังวลว่าข้อความ 280 ตัวอักษรจะทำให้หน้าฟีดของพวกเขารกรุงรังหรือยุ่งเหยิงขึ้นนั้น อลิซ่า โรเซน (Aliza Rosen) ผู้จัดการแผนกผลิตภัณฑ์ของทวิตเตอร์ ได้อธิบายผ่านบล็อกของทวิตเตอร์แล้วว่าให้สบายใจได้ เรื่องแบบนั้นจะไม่มีทางเกิดขึ้นแน่นอน
เพราะจากการเก็บข้อมูลในช่วงทดลองระบบพบว่า ส่วนใหญ่แล้วมีผู้ใช้งานทวิตเตอร์จำนวนแค่ 1% เท่านั้นที่พิมพ์ข้อความถึง 280 ตัวอักษร ขณะที่ 5% ของผู้ใช้งานจะทวีตข้อความยาวกว่า 140 ตัวอักษร และมีแค่ 2% ของผู้ใช้งานทวิตเตอร์เท่านั้นที่ทวีตข้อความเกิน 190 ตัวอักษร นั่นแสดงว่าผู้ใช้งานส่วนใหญ่ยังคงนิยมทวีตข้อความสั้นๆ อยู่เช่นเดิม
ด้านผลลัพธ์ในเชิง Engagement ทวิตเตอร์บอกว่าผู้ใช้งานที่ทวีตข้อความได้มากกว่า 140 ตัวอักษรหลายรายได้รับยอดไลก์ รีทวีต และเมนชัน รวมถึงยอดฟอลโลว์ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าผู้ใช้งานคนอื่นๆ โดยเสียงตอบรับจากผู้ใช้งานบางรายบอกผ่านทวิตเตอร์ว่า พวกเขารู้สึกพึงพอใจมากๆ ที่ได้แสดงความรู้สึกของตัวเองผ่านจำนวนตัวอักษรที่เพิ่มมากขึ้น
“พวกเราได้ทำการเปลี่ยนแปลงหลังจากที่รับฟังและเฝ้าสังเกตปัญหาของสังคมผู้ใช้งานทวิตเตอร์ทั่วโลก (ว่ามันไม่ได้ง่ายเลยกับการทวีตข้อความ!) พวกเราศึกษาข้อมูลทั้งหมดเพื่อทำความเข้าใจว่าจะพัฒนามันได้อย่างไร ทดลองให้หลายคนได้ใช้งานมันเพื่อฟังผลตอบรับที่เกิดขึ้น และพวกเราก็จะรับฟังและทำให้ทวิตเตอร์ใช้งานง่ายสำหรับทุกๆ คน เพื่อให้แน่ใจว่าเรายังรักษาสิ่งที่คุณรักไว้ได้” อลิซ่ากล่าว
ทั้งนี้สำหรับผู้ใช้งานทวิตเตอร์ในภาษาญี่ปุ่น จีน และเกาหลี ยังคงทวีตข้อความได้ 140 ตัวอักษรตามเดิม เนื่องจากทวิตเตอร์ให้ความเห็นว่าการพิมพ์ข้อความในภาษาเหล่านั้นไม่ได้พบกับปัญหาการบีบอัดข้อความแต่อย่างใด
อ้างอิง:
