บรรยากาศบริเวณหน้าอาคารรัฐสภา หลังจากที่ประชุมร่วมรัฐสภามีมติ 431 ต่อ 255 ให้ตั้งกรรมาธิการศึกษาญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นเวลา 30 วัน ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่ปักหลักอยู่ตรงหน้าประตูรั้วฝั่งวุฒิสภาบางส่วน นำโดย ทนายอานนท์ นำภา นำมวลชนไปบริเวณแยกเกียกกาย
โดยหลังจากที่การประชุมร่วมรัฐสภาได้ปิดประชุม ก็เริ่มมีรถทยอยออกจากอาคารรัฐสภาฝั่งประตูวัดแก้วฟ้าจุฬามณี โดยทนายอานนท์ได้ให้มวลชนตั้งแถวขนาบทางรถออก ซึ่งในเวลาต่อมามีตำรวจมาตั้งแนวตลอดทางออก โดยเมื่อมีรถของ ส.ส. พรรครัฐบาล หรือ ส.ว. มวลชนก็จะตะโกนโห่ร้อง แต่หากเป็นรถของ ส.ส. ฝ่ายค้าน ก็จะมีการปรบมือให้กำลังใจ
กระทั่งช่วงสุดท้าย ส.ส. พรรคก้าวไกล นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ได้ปราศรัยว่า ตนในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ทำงานอย่างเต็มที่ให้วันนี้เกิดขึ้นให้ได้
“เรารู้ว่ากำลังในสภาฯ เราไม่เพียงพอ เราพยายามหาทางออกให้ประเทศ ประชาชน และประชาธิปไตย รวมถึงรัฐบาล และ ส.ว. เพื่อถอดฟืนจากกองไฟไม่ให้ประเทศถึงทางตัน ยอมรับว่าผิดหวังและเสียใจที่ต้องมายืนอยู่ตรงนี้”
พิธากล่าวต่อว่า ตอนนี้จึงมาขอบคุณในพลานุภาพของประชาชนและพลังประชาธิปไตยที่ทำให้เราได้มีโอกาสอภิปรายในญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม ตนและสมาชิก ส.ส. พรรคฯ ต้องขอโทษพี่น้องประชาชนที่ไม่สามารถทำในสิ่งที่พวกท่านต้องการให้สำเร็จได้ แม้กลไกในสภาฯ ไม่อาจทำอะไรได้ แต่จะไม่หมดหวังในการแก้ปัญหาให้ประชาชนในการประชุมสมัยหน้า เราจะร่วมอภิปรายจนกว่าเขาจะยอมรับฟัง
โดยช่วงสุดท้าย ส.ส. พรรคก้าวไกล ได้เดินออกมาพบปะมวลชน ก่อนที่สุดท้าย ทนายอานนท์ได้ประกาศว่า เวทีทั้งหมดยุติแล้ววันนี้ แต่ได้แจ้งว่า กลางเดือนตุลาคมจะมีการจัดเวทีชุมนุม ‘แบบเบิ้มๆ‘ ขอให้พี่น้องประชาชนต่างจังหวัดเตรียมเก็บกระเป๋ามาร่วมกันต่อสู้ ซึ่งจะเป็นการต่อสู้แบบม้วนเดียวจบ จนกว่าจะได้ชัยชนะ
