โพลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ของ Reuters บ่งชี้ว่า อัตราการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กลับมาเพิ่มสูงขึ้น เป็นภัย คุกคามใหญ่หลวงที่สุดต่อเศรษฐกิจยูโรโซนในปีหน้า โดยที่การเติบโตของ GDP และอัตราเงินเฟ้ออาจมีทิศทางเชิงลบมากกว่าเชิงบวก
ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อไวรัสสะสมทั่วโลกราว 30 ล้านราย และเสียชีวิตแล้วกว่า 9 แสนราย ซึ่งทำให้หลายประเทศเผชิญกับภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ขณะเดียวกันก็ส่งผลกระทบต่อซัพพลายเชนทั่วโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ถึงแม้หลายประเทศในยูโรโซนกำลังอยู่ในขั้นฟื้นตัวหลังรัฐบาลคลายล็อกดาวน์ และอนุญาตให้ภาคธุรกิจกลับมาดำเนินงานได้อีกครั้ง แต่สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในหลายประเทศกลับมาน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะฝรั่งเศสและสเปน ซึ่งอาจทำให้การฟื้นตัวสะดุดลง เพราะมีความเป็นไปได้สูงที่ประเทศเหล่านี้อาจกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างเข้มงวดอีกครั้ง
ปีเตอร์ แวนเดน หัวหน้าเศรษฐกรแห่ง ING ให้ความเห็นว่า ตัวเลขการติดเชื้อที่พุ่งขึ้นในช่วงฤดูร้อน เป็นสัญญาณเตือนว่าหากไม่มีวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ การเติบโตอาจ ‘ไม่สมประกอบ’ นอกจากนี้ยังมีความหวาดวิตกเกี่ยวกับผลกระทบเชิงลบระลอกสอง เมื่อภาวะถดถอยเริ่มสะท้อนจำนวนผู้ว่างงานที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายและการบริโภค
เป็นที่คาดการณ์ว่ายูโรโซนอาจต้องใช้เวลาถึงปี 2022 เป็นอย่างน้อยกว่าที่เศรษฐกิจจะเติบโตกลับสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาด แม้ว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเริ่มเข้าซื้อสินทรัพย์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.35 ล้านล้านยูโร และสหภาพยุโรป (EU) เริ่มใช้เงินกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจ 7.5 แสนล้านยูโรในปีหน้าก็ตาม
นักเศรษฐศาสตร์ 37 คนจาก 41 คน หรือ 90% ที่ตอบแบบสำรวจของ Reuters ในช่วงวันที่ 15-17 กันยายน ระบุว่า อัตราการระบาดที่พุ่งขึ้นเป็นภัยคุกคามใหญ่สุดต่อเศรษฐกิจยูโรโซนในปีหน้า
ส่วนปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ที่นักเศรษฐศาสตร์ที่เหลือแสดงความกังวล ประกอบด้วย สกุลเงินยูโรที่แข็งค่า ซึ่งกระทบภาคส่งออกและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับดีลการค้าระหว่าง EU กับสหราชอาณาจักร ซึ่งจนถึงเวลานี้สองฝ่ายยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ ในขณะที่ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านหลัง Brexit กำลังจะสิ้นสุดลงในสิ้นปี 2020 นี้
โพลนักเศรษฐศาสตร์ของ Reuters คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะขยายตัว 8.1% ในไตรมาส 3 หลังจากที่หดตัวเป็นประวัติการณ์ถึง 11.8% ในไตรมาส 2 ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับที่ประมาณการไว้ในเดือนสิงหาคม
ส่วนไตรมาส 4 อาจเติบโตชะลอลงจากไตรมาส 3 เหลือ 2.5% โดยตัวเลขดังกล่าวปรับลดลงจากระดับ 3.0% ที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนที่แล้ว
แต่หากเกิดกรณีเลวร้ายที่สุด โพลคาดว่าเศรษฐกิจยูโรโซนอาจโตเพียง 4.5% ในไตรมาส 3 และหดตัว 0.4% ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: