จีนประกาศข้อจำกัดเรื่องกิจกรรมของนักการทูตสหรัฐฯ ที่ทำงานในจีนและฮ่องกง โดยระบุว่า เป็นการตอบโต้อย่างเท่าเทียมจากการที่สหรัฐฯ ดำเนินมาตรการเดียวกันกับนักการทูตจีนในสหรัฐฯ เมื่อปีที่แล้ว
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ทางออนไลน์เมื่อช่วงค่ำวันศุกร์ว่า ประกาศเรื่องข้อจำกัดกิจกรรมของนักการทูตสหรัฐฯ ที่ทำงานในจีนและฮ่องกงจะมีผลบังคับใช้กับนักการทูตระดับอาวุโส เจ้าหน้าที่ทุกคนในสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงปักกิ่ง และสถานกงสุลสหรัฐฯ ทั่วประเทศจีน
ทั้งนี้ โฆษกฯ กล่าวว่า จีนสนับสนุนการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือตามปกติระหว่างทุกภาคส่วนของสองประเทศ โดยข้อจำกัดดังกล่าวอาจถูกยกเลิก หากสหรัฐฯ ยกเลิกมาตรการเดียวกันที่ประกาศใช้กับนักการทูตจีนในเดือนตุลาคม ปี 2562
“เราขอเรียกร้องอีกครั้งให้ฝ่ายสหรัฐฯ แก้ไขความผิดพลาดในทันที และยกเลิกข้อจำกัดอันไร้เหตุผลที่บังคับใช้กับสถานทูตและสถานกงสุลจีน รวมถึงเจ้าหน้าที่สถานทูตและสถานกงสุลของจีน โดยจีนจะดำเนินการตอบโต้การกระทำของสหรัฐฯ อย่างเท่าเทียมกัน” โฆษกระบุในแถลงการณ์ แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับข้อจำกัดใหม่ของจีน
ปัจจุบันนักการทูตสหรัฐฯ มีข้อจำกัดในการเดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆ ในจีน รวมถึงสถาบันการศึกษา ขณะที่กฎของสหรัฐฯ ระบุว่า นักการทูตสหรัฐฯ ต้องรายงานเกี่ยวกับการเดินทางและการประชุม ซึ่งถูกมองว่าเป็นความพยายามของสหรัฐฯ เพื่อป้องกันไม่ให้จีนเข้าแทรกแซงชุมชนชาวจีนในต่างประเทศ รวมถึงนักศึกษาต่างชาติ
นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังแสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับการขาดความเท่าเทียมในการเข้าถึงสื่อ โดยระบุว่า นักการทูตจีนสามารถแสดงความเห็นผ่านสื่อสำนักต่างๆ ของสหรัฐฯ ได้ ขณะที่นักการทูตของสหรัฐฯ กลับถูกปิดกั้นในการเข้าถึงสื่อของรัฐบาลจีน
ล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ประท้วงเกี่ยวกับกรณีที่หนังสือพิมพ์ People’s Daily ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ปฏิเสธตีพิมพ์บทความคิดเห็นของ เทอร์รี แบรนสแตด เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศจีน โดยหนังสือพิมพ์ชี้แจงตอบกลับว่า บทความแสดงความเห็นดังกล่าวไม่เป็นไปตามมาตรฐานด้านบรรณาธิการ
ทั้งนี้ ความตึงเครียดระหว่างจีน-สหรัฐฯ ในเรื่องการค้า เทคโนโลยี และประเด็นอื่นๆ ลุกลามมายังวงการทูตและสื่อ โดยสหรัฐฯ สั่งปิดสถานกงสุลจีนในเมืองฮุสตันเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และจีนตอบโต้ด้วยการสั่งปิดสถานกงสุลสหรัฐฯ ในเมืองเฉิงตู ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งถือเป็นการโดนสองเด้ง เพราะสถานกงสุลแห่งนี้มีบทบาทสำคัญสำหรับสหรัฐฯ ในการติดตามตรวจสอบกิจกรรมและความเคลื่อนไหวต่างๆ ในเขตหิมาลัยของทิเบต
นอกจากนี้สหรัฐฯ ยังจำกัดจำนวนชาวจีนที่ทำงานให้กับสื่อของรัฐบาลจีนในสหรัฐฯ ซึ่งส่งผลให้มีการปลดผู้สื่อข่าว 60 คน และลดระยะวีซ่าจากนักข่าวคนอื่นๆ จาก 1 ปีลงเหลือเพียง 3 เดือน ขณะที่จีนเองตอบโต้ด้วยการชะลอการต่ออายุบัตรประจำตัวสื่อมวลชน
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: