เกิดอะไรขึ้น:
เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (10 กันยายน) บมจ. ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) ได้รายงานปริมาณจราจรบนทางด่วนในเดือนสิงหาคมที่ 1.13 ล้านเที่ยวต่อวัน ยังคงลดลง 10.2%YoY แต่ปรับตัวดีขึ้น 1%MoM ส่งผลทำให้ปริมาณจราจรบนทางด่วน YTD อยู่ที่ 1.0 ล้านเที่ยวต่อวัน ลดลง 18.9%YoY
สำหรับจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT อยู่ที่ 288,000 เที่ยวต่อวัน ลดลง 14.9%YoY แต่เพิ่มขึ้น 13.7%MoM ส่งผลทำให้จำนวนผู้โดยสาร YTD อยู่ที่ 241,900 เที่ยวต่อวัน ลดลง 23.7%YoY
กระทบอย่างไร:
วานนี้ (10 กันยายน) ราคาหุ้น BEM ไม่ตอบสนองมากนักต่อการรายงานปริมาณจราจรบนทางด่วนและจำนวนผู้โดยสาร MRT และปิดที่ระดับ 9.10 บาท เพิ่มขึ้น 1.11%DoD ขณะที่วันนี้ (11 กันยายน) ราคาหุ้น BEM ปรับตัวลง 1.65%DoD สู่ระดับ 8.95 บาท ตามทิศทางตลาดหุ้นไทย หลังมีรายพบนักฟุตบอลไทยลีกติดโควิด-19
มุมมองระยะสั้น:
ตัวเลขปริมาณจราจรบนทางด่วนเดือนสิงหาคมค่อนข้างต่ำกว่าที่ SCBS คาดไว้ เนื่องจากเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคม โดยก่อนหน้านี้ SCBS คาดว่า ปริมาณจราจรบนทางด่วนเดือนสิงหาคมจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง MoM เนื่องจากเป็นช่วงโรงเรียนเปิดเทอมในเดือนสิงหาคม สำหรับจำนวนผู้โดยสาร MRT มีโมเมนตัมการฟื้นตัวที่ดีกว่าคาดเล็กน้อย โดยได้ปัจจัยสนับสนุนจากการผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม โดยรวมแล้วเราคาดว่าราคาหุ้น BEM จะตอบรับกลางๆ ต่อประเด็นนี้ เนื่องจากมีทั้งประเด็นบวกและลบ ซึ่งชดเชยกัน
สำหรับประเด็นที่ต้องติดตามในระยะถัดไปคือ การยื่นซองประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ซึ่งมีแนวโน้มล่าช้าออกไป หลังจากคณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยได้ปรับหลักเกณฑ์ TOR โดยจะนำคะแนนข้อเสนอทางเทคนิคมาประเมินร่วมกับข้อเสนอทางการเงินด้วย 30%
มุมมองระยะยาว:
SCBS คาดว่า BEM จะชนะการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก เนื่องจากบริษัทมีความเชี่ยวชาญในการดำเนินงานทั้งรถไฟฟ้าใต้ดินและยกระดับ รวมถึงพันธมิตรอย่าง บมจ.ช. การช่าง (CK) ก็มีความเชี่ยวชาญในงานก่อสร้างใต้ดินเช่นกัน นอกจากนี้การปรับเกณฑ์ TOR ใหม่ จะเป็นประโยชน์แก่ BEM มากขึ้น
ข้อมูลพื้นฐาน:
%YoY คือ เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
%MoM คือ เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า
YTD คือ ข้อมูลตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล