ท่ามกลางกระแสข่าวและสถานการณ์ต่างๆ ที่สร้างความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-จีนให้สูงขึ้น แต่ทางการจีนประกาศขยายการทดสอบใช้งานสกุลเงินดิจิทัลในประเทศ (หยวนดิจิทัล) โดยจะขยายในเมืองขนาดใหญ่ ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง กวางโจว (ในเมืองเซินเจิ้นและฮ่องกง) โดยทางกระทรวงพาณิชย์ประกาศขยายพื้นที่การทดสอบนี้เพื่อให้ครอบคลุมประชากรราว 400 ล้านคน ซึ่งคิดเป็น 29% ของทั้งประเทศ
ทั้งนี้การทดลองใช้หยวนดิจิทัลซึ่งสามารถใช้ได้เหมือนเงินหยวนในรูปแบบปัจจุบัน (ธนบัตร) เริ่มต้นมาตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 ใน 4 เมือง (เซินเจิ้น เฉิงตู ซูโจว และสงอัน) ซึ่งครอบคุลมประชากรกว่า 41 ล้านคน ทว่าโครงการนี้เริ่มต้นการศึกษามานานกว่านั้นและใช้เวลามากกว่า 5 ปี
ขณะที่จุดเปลี่ยนที่ทำให้จีนประกาศการทดสอบการใช้งานหยวนดิจิทัลอย่างเป็นทางการ คาดว่ามาจากการที่ Facebook ประกาศเปิดตัวโครงการ Libra ในปี 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความกังวลว่าสหรัฐฯ อาจจะกดดันให้จีนต้องเข้าสู่ระบบการเงินที่มีดอลลาร์สหรัฐเป็นพื้นฐาน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องจับตามองเรื่องหยวนดิจิทัลคือตัวระบบหยวนดิจิทัลและการทำระบบ Settlement (ระบบการชำระราคาและส่งมอบ) ต่างๆ ซึ่งจะเพิ่มความได้เปรียบให้กับสถาบันการเงินในจีน รวมถึงเปิดการเข้าถึงสกุลเงินดิจิทัลมากขึ้น
นอกจากนี้ธนาคารกลางของจีนจะเปิดให้สกุลเงินดิจิทัลหรือหยวนดิจิทัล ธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงิน โดยทั้งสองส่วนนี้จะเป็นตัวเชื่อมโยงกับประชาชนต่อไป ปัจจุบันมีหลายธนาคารที่เปิดให้ประชาชนทดลองการใช้งานสกุลเงินดิจิทัลผ่านแอปพลิเคชันกระเป๋าเงินดิจิทัลแล้ว
ทั้งนี้การทดสอบ ‘หยวนดิจิทัล’ จะนำร่องเพื่อใช้ระบบนี้กับปักกิ่งโอลิมปิก ที่จะจัดขึ้นในปี 2565
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: