ถึงแม้ว่าภาคธุรกิจส่วนใหญ่ดูจะได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 มากเป็นพิเศษ แต่กับ ‘บริษัทเทคโนโลยี’ จำนวนมาก ดูเหมือนว่าไวรัสโคโรนา 2019 จะกลายเป็นเหมือนสารกระตุ้นที่ทำให้พวกเขาเหล่านั้นเติบโต และมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
ล่าสุด ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ได้เปิดเผยผลประกอบการของบริษัทในช่วงไตรมาส 4 ประจำปีงบการเงิน 2020 ที่ผ่านมา (Q4 Fiscal Year: เมษายน-มิถุนายน) และพบว่าพวกเขามีรายได้รวมทั้งสิ้น 38,033 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 13%
อย่างไรก็ดี จุดที่น่ากังวลคือการที่กำไรสุทธิของบริษัทไมโครซอฟท์ในช่วงไตรมาสที่ผ่านมานั้นอยู่ที่ 11,202 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลดลงจากปีก่อนหน้าราว 15% มาอยู่ที่ 13,187 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ ไมโครซอฟท์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมถึงผลประกอบการของบริษัทในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา และผลกระทบของธุรกิจที่ได้รับจากโควิด-19 โดยพบว่ารายได้ของธุรกิจในกลุ่ม Productivity และ Business Processes และ Intelligent Cloud ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ ‘คลาวด์’ ที่ได้รับความนิยมมหาศาลจากผลกระทบที่ลูกค้าภาคธุรกิจส่วนใหญ่ยังคงให้พนักงานปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่บ้าน
ส่วนรายได้จากธุรกิจแบบ Transactional License ที่ทำร่วมกับลูกค้าขนาดกลางและเล็กเริ่มมีรายได้ที่ลดลง เช่นเดียวกับรายได้ของแพลตฟอร์มรับสมัครงาน LinkedIn ที่ได้รับผลกระทบจากตลาดหางานที่หดตัวลง และแนวโน้มของการงดลงโฆษณาของแบรนด์สินค้าอุปโภค-บริโภคต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา (รายได้จากโฆษณาของแพลตฟอร์ม Search ก็ลดลงด้วย)
สัตยา นาเดลลา ซีอีโอบริษัทไมโครซอฟท์ กล่าวว่า “ช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่า ความเข้มข้นจริงจังของเทคโนโลยีถือเป็นกุญแจสำคัญของภาคธุรกิจมากแค่ไหน ภาคองค์กรที่สามารถสร้างศักยภาพด้านดิจิทัลของตัวเองได้เต็มกำลังก็จะสามารถฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ได้รวดเร็ว และกลับมาแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม
“เราเป็นเพียงแค่บริษัทเดียวที่สามารถผสมผสานเทคโนโลยียุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์ ให้เข้ากับแนวทางด้านความปลอดภัยได้อย่างลงตัว เพื่อช่วยให้องค์กรและภาคธุรกิจสามารถทรานส์ฟอร์มตัวเอง และตอบสนองความต้องการของลูกค้าของพวกเขาได้”
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: