สหรัฐฯ ตั้งข้อหา 2 แฮกเกอร์จีนพยายามขโมยข้อมูลวัคซีนโควิด-19

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ตั้งข้อหาสองแฮกเกอร์ชายชาวจีน คือ หลี่เสี่ยวหยู วัย 34 ปี และ ต่งเจียจื้อ วัย 33 ปี หลังพบว่าทั้งสองพยายามจารกรรมข้อมูลการวิจัยวัคซีนจากหลายบริษัทเอกชนสหรัฐฯ และยังแฮกข้อมูลบริษัททั้งในสหรัฐฯ และต่างประเทศอีกหลายร้อยบริษัท รวมถึงบริษัทคู่สัญญาของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังพยายามสอดส่องข้อมูลของนักเคลื่อนไหวทั้งในสหรัฐฯ จีน และฮ่องกง

จอห์น เดเมอร์ส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า ทั้งหลี่ และต่ง ซึ่งเป็นอดีตนักศึกษาวิศวกรรมไฟฟ้า ถูกตั้งข้อหาขโมยความลับทางการค้า และสมคบคิดกระทำทุจริตผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์

ซึ่งเชื่อว่าตอนนี้ทั้งสองอยู่ในจีน และอาจได้รับความช่วยเหลือเป็นครั้งคราวจากสายลับรัฐบาลจีน และเจ้าหน้าที่กระทรวงความมั่นคงแห่งรัฐของจีน ในการปฏิบัติภารกิจแฮกข้อมูล ซึ่งบางครั้งเป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนตัว และหลายครั้งทำไปเพื่อประโยชน์ของจีน

“ตอนนี้จีนเข้ามาแทนที่รัสเซีย อิหร่าน และเกาหลีเหนือ ในกลุ่มที่น่าละอายของชาติที่ให้แหล่งหลบภัยสำหรับเหล่าอาชญากรทางไซเบอร์” เดเมอร์ส กล่าว

จากข้อมูลของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า แฮกเกอร์ชาวจีนทั้งสองคนเริ่มสอดส่องข้อมูลของบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพในรัฐแมสซาชูเซตส์ ที่ทำการวิจัยแนวทางรักษาโรคโควิด-19 ตั้งแต่เดือนมกราคม และหลังจากนั้นไม่ถึงสัปดาห์ ได้แฮกข้อมูลบริษัทแห่งหนึ่งในรัฐแมริแลนด์ ที่กำลังทำการวิจัยเกี่ยวกับโรคโควิด-19

ก่อนหน้านี้พบว่าทั้งสองคนยังเคยขโมยข้อมูลความลับทางการค้าและทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงข้อมูลทางธุรกิจที่มีค่าอื่นๆ รวมมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยพบว่าเริ่มทำตั้งแต่ปี 2009

ด้าน หลิวเสี่ยวหมิง ทูตจีนประจำอังกฤษ ได้ออกมาแสดงท่าทีต่อการตั้งข้อหาสองแฮกเกอร์ของสหรัฐฯ โดยระบุว่า ข้อกล่าวหาในการแฮกข้อมูลผลวิจัยวัคซีนนั้นเป็นเพียงข่าวโคมลอยที่ไร้เหตุผล และไม่ให้เกียรติต่อนักวิทยาศาสตร์จีนที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาวัคซีน อีกทั้งยังบั่นทอนความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการวิจัยและพัฒนาวัคซีนด้วย

การตั้งข้อหาสองแฮกเกอร์ชาวจีน มีขึ้นหลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อังกฤษ สหรัฐฯ และแคนาดา ออกมากล่าวหารัสเซียว่าพยายามขโมยข้อมูลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาวัคซีนโควิด-19 จากบริษัทผลิตยาและสถาบันวิชาการหลายแห่ง

ซึ่งล่าสุด อันโตน สิลัวนอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของรัสเซีย ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNBC ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยยืนยันว่าไม่มีแฮกเกอร์ทำงานให้กับรัฐบาลรัสเซีย

“ไม่มีแฮกเกอร์ที่ทำงานให้กับรัฐบาลรัสเซีย ดังนั้นรัฐบาลของเราจะไม่พิจารณาการกระทำใดๆ ของแฮกเกอร์ และไม่มีการประสานงานกับพวกเขา” สิลัวนอฟ กล่าว พร้อมชี้แจงว่าไม่มีเหตุผลที่รัสเซียต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับการแฮกข้อมูลการพัฒนาวัคซีนจากชาติตะวันตก เพราะรัสเซียเองก็กำลังพยายามพัฒนาวัคซีนของตนเอง

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง: