เมื่อวานนี้ (20 กรกฎาคม) เกรตา ธันเบิร์ก นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมชาวสวีดิชวัย 17 ปี ได้รับรางวัล Gulbenkian Prize for Humanity 2020 พร้อมเงินรางวัล 1 ล้านยูโร (ราว 36 ล้านบาท) ในฐานะที่เป็นกระบอกเสียงสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนให้กลุ่มคนรุ่นใหม่หันมาสนใจประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก โดยเกรตาจะจัดสรรและส่งต่อเงินรางวัลทั้งหมดให้แก่บรรดากลุ่มองค์กรที่ต่อสู้และเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม
“นี่คือเงินรางวัลจำนวนมากกว่าที่หนูจะจินตนาการได้ แต่เงินรางวัลทั้งหมดนี้จะถูกส่งต่อผ่านองค์กรของหนู ให้แก่บรรดาองค์กรและโครงการอื่นๆ ที่กำลังช่วยเหลือผู้คนที่กำลังประสบ และได้รับผลกระทบจากวิกฤตด้านการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและระบบนิเวศ”
โดยเงินรางวัลจำนวน 1 แสนยูโรแรก (ราว 3.6 ล้านบาท) จะถูกบริจาคให้แก่แคมเปญ ‘SOS Amazonia’ ที่ขับเคลื่อนโดย Fridays For Future Brazil เพื่อจัดการป้องกันและเยียวยาบรรดาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในเขตพื้นที่ป่าแอมะซอน ขณะที่อีก 1 แสนยูโรต่อมาจะสนับสนุนมูลนิธิ Stop Ecocide Foundation ที่ต่อสู้เรื่องการปกป้องสิ่งแวดล้อมทั้งในมิติภายในประเทศและระหว่างประเทศ
ก่อนหน้านี้เกรตาเคยได้รับรางวัลด้านสิทธิมนุษยชนจาก Amnesty International และรางวัล Swedish Right Livelihood Award หรือที่รู้จักกันในฐานะรางวัลโนเบลทางเลือก Alternative Nobel Prize 2019 รวมถึงได้รับเลือกจากนิตยสาร TIME ให้เป็นบุคคลแห่งปี 2019 อีกด้วย
รางวัล Gulbenkian Prize เป็นรางวัลสัญชาติโปรตุกีสที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1976 โดยมูลนิธิ Calouste Gulbenkian Foundation และเดิมทีจะพิจารณามอบรางวัลให้แก่บุคคลและองค์กรเฉพาะในโปรตุเกสเท่านั้น ก่อนที่ในปี 2012 จะขยายขอบเขตการพิจารณารางวัลให้ครอบคลุมบุคคลและองค์กรจากทั่วโลก โดยมีรางวัลทั้งในสาขาวิทยาศาสตร์ ความรู้และความยั่งยืน รวมถึงด้านสิทธิมนุษยชนที่เพิ่มเงินรางวัลเป็น 1 ล้านยูโรเป็นครั้งแรก โดยมุ่งเน้นไปที่บุคคลหรือองค์กรที่มีผลงานโดดเด่นด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม
ภาพ: Thierry Monasse / Getty Images
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: