ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ แจ้งต่อสหประชาชาติและสภาคองเกรสอย่างเป็นทางการว่า สหรัฐฯ จะถอนตัวจากการเป็นประเทศสมาชิกองค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งเป็นการตอกย้ำท่าทีที่ไม่เห็นด้วยต่อการทำงานของ WHO หลังจากที่เคยกล่าวหาว่าองค์การดังกล่าวอยู่ภายใต้อิทธิพลของจีนจากเหตุการณ์การระบาดของโควิด-19
ก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้ประกาศระงับการจ่ายเงินสนับสนุน WHO เนื่องจากมองว่า WHO มีความบกพร่องในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส ส่วนความเคลื่อนไหวล่าสุดในการถอนตัวจาก WHO นั้น เกิดขึ้นท่ามกลางเสียงทัดทานจากสหภาพยุโรป (EU) และชาติอื่นๆ ซึ่งนับเป็นอีกครั้งที่ทรัมป์พยายามหันหลังให้กับเวทีความร่วมมือระดับพหุภาคี
ทรัมป์ระบุว่า หลังจากถอนตัวแล้ว รัฐบาลจะจัดสรรงบประมาณไปยังส่วนอื่นๆ แทน อย่างไรก็ตาม กระบวนการถอนตัวดังกล่าวต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปี โดย สเตฟาน ดูยาร์ริช โฆษกเลขาธิการสหประชาชาติ ยืนยันว่า สหรัฐฯ ได้แสดงความจำนงในการถอนตัวแล้ว ซึ่งจะมีผลในวันที่ 6 กรกฎาคม 2021
ด้าน โรเบิร์ต เมเนนเดซ ผู้นำเดโมแครตในคณะกรรมาธิการด้านวิเทศสัมพันธ์ของสภาคองเกรส เปิดเผยว่า ทางรัฐสภาได้รับแจ้งจากประธานาธิบดีว่าจะดำเนินการถอนตัวจาก WHO อย่างเป็นทางการแล้ว แต่เตือนว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะทำให้อเมริกาโดดเดี่ยว และไม่ได้ช่วยปกป้องชีวิตและผลประโยชน์ของชาวอเมริกันเลย
ขณะที่ โจ ไบเดน ผู้ท้าชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการเลือกตั้งปลายปีนี้ ก็แสดงความไม่เห็นด้วย พร้อมประกาศว่า ทันทีที่เขาได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ เขาจะนำสหรัฐฯ กลับเข้าเป็นสมาชิก WHO ในวันแรกของการดำรงตำแหน่ง และกอบกู้สถานภาพผู้นำของสหรัฐฯ บนเวทีโลก
ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ เปิดเผยกับ CBS News ว่า ที่ผ่านมารัฐบาลได้เสนอแนวทางการปฏิรูปเพื่อให้ WHO นำไปปฏิบัติ แต่ WHO ปฏิเสธ ดังนั้นวอชิงตันจึงตัดสินใจตัดความสัมพันธ์ระหว่างกัน
ปัจจุบันสหรัฐฯ เป็นประเทศที่ให้เงินสนับสนุน WHO รายใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยงบประมาณกว่า 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2019 ซึ่งมีสัดส่วนราว 15% ของงบประมาณดำเนินงานทั้งหมด
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: