วันนี้ (1 กรกฎาคม) จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย วิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน, อดุลย์ บุสสา ผู้อำนวยการองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) และภกรณ์ รงค์นพรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารการตลาดและการขาย องค์การค้าของ สกสค. ติดตามมาตรการพาณิชย์ลดราคา ‘Back to School’ ที่ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ สาขาลาดพร้าว
จุรินทร์ใช้เวลาเดินสำรวจติดตามราคา พบปะพ่อแม่ผู้ปกครอง ที่ศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ สาขาลาดพร้าว อย่างใกล้ชิด และได้กำชับกรณีการติดป้ายราคาให้ชัดเจน
จุรินทร์กล่าวว่า ถือว่าตนกับอธิบดีกรมการค้าภายในได้มาติดตามโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชนล็อตที่ 5 ‘Back to School’ ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์กับภาคเอกชนที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งเป็นการร่วมมือกันลดราคาสินค้าที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 6 หมวด ประกอบด้วย 1.ชุดนักเรียน 2.รองเท้า ถุงเท้า 3.กระเป๋านักเรียน 4.ตำราเรียนและหนังสือเรียน 5.เครื่องเขียน อุปกรณ์การเรียน 6.สื่อการเรียนการสอน ซึ่งทั้งหมดนี้มีสินค้ารวมกันทั้งหมด 1,605 รายการ ลดราคาสูงสุดถึง 80% และกระจายอยู่ในห้างทั้งหมดทั่วประเทศจำนวน 13 ห้างด้วยกัน ประกอบด้วย 1.ห้างแม็คโคร 2.ห้างเทสโก้ 3.ห้างบิ๊กซี 4.ห้างเซ็นทรัล 5.โรบินสัน 6.ท็อปส์ 7.เดอะมอลล์ 8.ห้างตั้งฮั่วเส็ง 9.เซเว่น-อีเลฟเว่น 10.แม็กซ์แวลู 11.สห ลอว์สัน 12.ซีเจ เอ็กซ์เพรส และ 13.ฟู้ดแลนด์ ซูเปอร์มาร์เก็ต
โดยมีผู้ผลิตสินค้าเข้ามาร่วมจำนวน 7 ราย 1.ห้างศึกษาภัณฑ์ 2.ห้างน้อมจิตต์ 3.ตราสมอ 4.ตราสมใจนึก 5.ตราบาจา 6.ตรานันยาง 7.ตราแพน รวมถึงพีเอสจูเนียร์ ร่วมลดในห้างทั้งหมด 13 ห้างทั่วทั้งประเทศ
“ที่วันนี้มาที่ห้างศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ สาขาลาดพร้าว เพื่อมาติดตามเป็นตัวอย่างว่าได้มีการลดราคาตามที่ตกลงกันไว้จริงหรือไม่ แล้วจะช่วยลดภาระผู้ปกครองได้มากน้อยแค่ไหน จากการติดตามเฉพาะห้างศึกษาภัณฑ์พาณิชย์ สาขาลาดพร้าว พบว่าหลังจากเริ่มโครงการ ‘พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน’ ล็อตที่ 5 Back to School ช่วยให้มีลูกค้าผู้ปกครองมาซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นประมาณ 50% ซึ่งการลดราคานั้นจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน สิ้นสุดวันที่ 15 กรกฎาคม 2563 วันนี้วันที่ 1 กรกฎาคม เป็นวันที่เริ่มต้นเปิดเทอม” จุรินทร์กล่าว
ขอถือโอกาสเชิญชวนผู้ปกครองและนักเรียนที่จำเป็นจะต้องมีชุดนักเรียนใหม่ อุปกรณ์การเรียนใหม่ ตำราเรียนใหม่ ไปซื้อหาได้ตามห้างต่างๆ ในราคาพิเศษ ลดสูงสุดถึง 80% ซึ่งกระทรวงพาณิชย์คาดว่าตลอดการเปิดเทอมภาคเรียนใหม่นี้จะช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับผู้ปกครองรวมกันได้ประมาณไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท และจะมีส่วนช่วยผู้ปกครองทั้งหมดประมาณ 10.4 ล้านคนทั่วทั้งประเทศที่สนใจจะมาจับจ่ายใช้สอยในช่วงนี้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีผู้ปกครองขโมยชุดนักเรียนที่เป็นข่าวอยู่นั้น จุรินทร์กล่าวว่าไม่สนับสนุนให้คนทำผิดกฎหมาย แต่ถ้าลำบาก ไม่ไหวจริงๆ ให้ประสานงานสำนักงานพัฒนาสังคมจังหวัด กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หรือกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อหาวิธีดูแลสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาสและกลุ่มเปราะบาง ต้องยอมรับว่ามีความเห็นใจอย่างยิ่ง แต่อย่าไปทำผิดกฎหมาย
“ไม่สนับสนุนให้ไปขโมยของหรือทำผิดกฎหมาย การทำผิดกฎหมายเป็นสิ่งที่ไม่ควรส่งเสริม แต่หากมีความจำเป็น เบื้องต้นอยากให้ประสานงานอย่างน้อยกับกระทรวงศึกษาธิการ หรือกับกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ถ้าเป็นผู้ด้อยโอกาสและเป็นกลุ่มเปราะบางก็จะมีแนวทางในการให้การช่วยเหลือ อาจประสานไปที่สำนักงานพัฒนาสังคมจังหวัดก็ได้ ประสานไปกับครูอาจารย์ที่โรงเรียนก็ได้ เพราะโดยนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งตนเชื่อว่ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ครูและผู้ปกครองก็ยังคงมีโครงการที่จะไปเยี่ยมบ้านนักเรียนอยู่ ถ้าติดขัดอย่างไรก็แจ้งให้ครูและโรงเรียนทราบก็จะเป็นทางออกที่น่าจะดีที่สุด”
จุรินทร์กล่าวต่อว่า ตามนโยบายเรียนฟรีของรัฐบาลที่ตนเป็นคนเริ่มต้นไว้ตั้งแต่ปี 2551-2552 ขณะนี้ก็ยังคงอยู่ อย่างน้อยในหลักการเรียนฟรีก็ฟรี 5 เรื่องคือ 1.ค่าเรียนฟรี 2.ตำราเรียนฟรี 3. อุปกรณ์การเรียนฟรี 4.ทัศนศึกษาฟรีอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง 5.ชุดนักเรียนฟรีปีละ 2 ชุด ถ้ายังคงอยู่ก็เป็นการช่วยแบ่งเบาภาระเบื้องต้น ถ้าไม่พอก็มาซื้อ 6 รายการที่ลดราคาสูงสุดถึง 80% ตามโครงการพาณิชย์ลดราคาช่วยประชาชน ล็อต 5 ได้
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
