×

เปลี่ยน ‘ขวด-แก้ว-กระปุกครีม’ ให้เป็นแจกันสุดเท่และที่เก็บของสุดชิค

09.06.2017
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins. Read
  • อินสไปร์จากบล็อกเกอร์ดัง Kate La Vie เนรมิตแก้วเทียนเปล่ามาเป็นที่เก็บแปรงแต่งหน้าและเมกอัพ
  • ปักดอกไม้ใส่ขวดเปล่า Aesop (เอสอป) กลายเป็นของแต่งบ้านฉบับรียูสที่แสนดูดี
  • สารพัดประโยชน์การใช้งานจากกระปุกครีมเปล่าๆ ใช้เก็บสำลี วิตามิน หรือจะเก็บแอ็กเซสซอรีชิ้นจิ๋วอย่างต่างหู หรือแหวน ก็กิ๊บเก๋

     หยุดก่อน! ถ้าคุณมีขวดเปล่า แก้วเทียนเปล่า หรือกระปุกเปล่า อย่าเพิ่งทิ้ง เพราะคุณสามารถนำมารีไซเคิลใหม่เป็นแจกัน, ที่เก็บคอตตอนบัด, ที่ใส่ต่างหู และของกระจุกกระจิก ได้อีกสารพัด!

 

 

ขวดเปล่า Aesop = แจกันสุดเท่

     เพียงแวบแรกที่เห็นรูปทรงขวดสีน้ำตาลสไตล์มินิมัล ที่มีฉลากสีขาวแปะอยู่บนขวด ในแพ็กเกจแบบเรียบง่าย หลายคนก็มักจำได้ทันทีว่านี่คือแบรนด์ Aesop
(เอสอป) ขวดเท่ขนาดนี้ เมื่อใช้ผลิตภัณฑ์จนหมดแล้วอย่าทิ้ง! เพราะสามารถนำมาใช้เป็นแจกันเท่ๆ ได้

     อย่าลืมว่าทุกบรรจุภัณฑ์ของ Aesop ผ่านการคิดทั้งด้านการใช้งาน และรูปทรงแพ็กเกจที่สวยงาม อย่างที่แบรนด์เขาย้ำเสมอว่า การออกแบบที่ดีจะช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตของเราได้ เมื่อเขาคิดมาเยอะขนาดนี้ จะทิ้งก็น่าเสียดาย ถ้าอย่างนั้นเริ่มหยิบเอาขวดเปล่ามาลองปักดอกไม้ดูสิ คอนเฟิร์มว่าวางไว้ตรงไหนก็เท่และดูดี

 

 

กระปุก Lush = ใส่คอตตอนบัดเก๋ๆ
    เคยไหมที่เดินเล่นในสยามเซ็นเตอร์อยู่ดีๆ ทันทีที่ลงบันไดเลื่อนมาถึงชั้น 1 เท่านั้นแหละ กลิ่นหอมๆ ของแบรนด์ Lush (ลัช) ก็โชยเข้ามาดึงดูดให้สาวๆ เดินตามเข้าไปในร้านแบบเคลิ้มๆ โดยไม่ทันรู้ตัว ความน่ารักของแบรนด์ Lush ที่เราชอบคือไอเดียที่เขามุ่งมั่นอยากเปลี่ยนแปลงสังคมไทยให้เป็นสังคมรักษ์โลก ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Lush จึงไม่ทดลองผลิตภัณฑ์กับสัตว์ ส่วนกระปุกเปล่าก็มีการนำกลับมารีไซเคิลใหม่ เราจึงอยากให้แฟนๆ Lush เดินตามไอเดียน่ารักๆ นี้ด้วยการนำบรรจุภัณฑ์เปล่ามาประยุกต์ใช้ประโยชน์ได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องทิ้ง เช่น เจาะรูทำเป็นกระปุกออมสิน ใส่ดินสอ ปากกา หรือเอาไปเก็บคอตตอนบัด แบบที่เราทำเป็นตัวอย่างก็น่ารักดี

 

 

แก้ว Diptyque = เก็บของจุกจิกให้ดูชิคๆ มีสไตล์
     จุดเด่นของ Diptyque (ดิปทีค) คือความหอมหรูหราอันเป็นเอกลักษณ์ แถมยังโดดเด่นด้วยดีไซน์ของบรรจุภัณฑ์ทั้งขวดน้ำหอมและเทียนหอม ยิ่งเมื่อใช้เทียนหอมหมด เราสามารถนำแก้วเปล่ามาใช้เป็นของตกแต่งเพื่อเพิ่มความชิคกิ๊บเก๋ให้มุมต่างๆ ในบ้านดูดีขึ้นได้ เช่น นำมาใส่ปากกา ดินสอ อุปกรณ์แต่งหน้า หรือดอกไม้ ใช้วางตกแต่งบนโต๊ะเครื่องแป้งให้ดูมีสไตล์ 

https://www.instagram.com/p/BM6xs8pDFyP/

     ลองดูอินสไปร์จากบล็อกเกอร์ดัง Kate La Vie ใช้แก้วเทียนตกแต่งมุมต่างๆ ของบ้านให้ออกมาน่ารักและอบอุ่นจนต้องทำตาม 

 

 

กระปุกครีมเปล่า = ใส่สำลีพกไปทริปสั้นๆ

     ขนาดของกระปุกครีมบำรุงผิวต่างๆ เมื่อใช้หมดแล้ว ส่วนใหญ่มักจะโยนลงถังขยะ เพราะไม่รู้จะเก็บมาทำอะไรต่อดี เรามีไอเดียมากมายที่อยากแชร์ให้สาวๆ รู้ว่า เจ้ากระปุกเปล่าๆ เหล่านี้มีประโยชน์กว่าที่คิด วิธีที่เวิร์กมากสำหรับสาวๆ ผู้รักการเดินทาง คือนำกระปุกเปล่ามาเก็บสำลีแบบแผ่นได้พอดี ใช้พกพาไปทริปสั้นๆ ได้ง่าย ช่วยแก้ปัญหาเวลาวางไว้ในห้องน้ำแล้วน้ำกระเด็นโดนสำลีเปียก เวลาจะเปิดใช้ก็ง่าย นอกจากจะใช้ใส่สำลีแล้ว กระปุกไซส์เล็กที่ทำความสะอาดแล้วสามารถนำมาใส่วิตามินต่างๆ พกพาใส่กระเป๋าเวลาเดินทางได้ดี

 

 

กระปุกแป้งฝุ่น = ที่อยู่ใหม่ของแอ็กเซสซอรีชิ้นจิ๋ว

     กระปุกแป้งฝุ่นของสาวๆ ไม่ว่าจะแบรนด์ไหนก็ล้วนมีขนาดที่ใหญ่เอาเรื่อง แถมราคาก็ไม่เบา ดังนั้นพอใช้แป้งหมด ก็เอามาใช้ประโยชน์ต่อซะเลย อย่าลืมว่าความหรูหราดูดีที่แบรนด์ดีไซน์มานั้นเวอร์วังสวยงามจนทิ้งไม่ลง แนะนำให้เอามาใส่แอ็กเซสซอรีชิ้นเล็กๆ เช่น ต่างหู และแหวน นอกจากจะเป็นระเบียบ แหวนไม่หาย หาง่ายเมื่อจะใช้งานแล้ว การนำของมารียูสใหม่ยังสร้างความรู้สึกดีๆ ให้เกิดขึ้นกับหัวใจของเราด้วย

     ไม่จำเป็นเลยว่าขวดเปล่า แก้วเทียนเปล่า หรือกระปุกเปล่า ที่จะนำมารีไซเคิลใหม่จะต้องเป็นแบบที่ยกตัวอย่างนี้เท่านั้น เพราะทุกคนสามารถเลือกใช้จากบรรจุภัณฑ์ที่ตัวเองมีมาปรับเปลี่ยนการใช้งานให้ตอบโจทย์กับตัวเองมากที่สุด จะยึดไอเดียนี้เป็นแนวทางก็ได้ หรือจะออกแบบการใช้งานในแบบของตัวเองที่ต่างออกไปก็ได้เช่นกัน

FYI
  • Aesop (เอสอป) แบรนด์สกินแคร์ที่ก่อกำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี 1987 ที่เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ผลิตภัณฑ์เกิดจากส่วนผสมระหว่างธรรมชาติและการสังเคราะห์เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เรื่องการดูแลรักษาผิว เส้นผม หนังศีรษะและร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ อีกความโดดเด่นของ Aesop คือซิกเนเจอร์สโตร์ที่ยึดหลักสร้างสรรค์งานออกแบบให้กลมกลืนกับโลเคชันและคัลเจอร์ที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ โดยในไทยมีเคาน์เตอร์อยู่ที่ Beauty Hall ชั้น M สยามพารากอน, ชั้น G เซ็นทรัล ลาดพร้าว และชั้น M ดิ เอ็มโพเรียม
  • Diptyque (ดิปทีค) แบรนด์น้ำหอมจากประเทศฝรั่งเศส เกิดจากการรวมตัวกันของเพื่อนรัก 3 คน แม้ต่างอาชีพ แต่มีจิตวิญญาณที่หลงใหลในศิลปะร่วมกัน พวกเขาร่วมกันเปิดช็อปแห่งแรกของดีปทีคเมื่อปี 1961 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาแบรนด์ก็ผลิตน้ำหอม เทียนหอม และผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความหอมออกมามากมายจนเป็นที่ชื่นชอบของคนทั่วโลก ในไทยมีเคาน์เตอร์อยู่ที่ Beauty Hall ชั้น M สยามพารากอน และชั้น G ดิ เอ็มควอเทียร์
  • Lush (ลัช) ก่อตั้งเมื่อปี 1995 เป็นแบรนด์ออร์แกนิกชื่อดังจากประเทศอังกฤษ มีคอนเซปต์ Fresh Handmade Cosmetics ผลิตภัณฑ์ต่างๆ คำนึงถึงส่วนผสมที่มาจากธรรมชาติ ไม่ทำการทดลองผลิตภัณฑ์กับสัตว์ ประกอบด้วยผลิตภัณฑ์หลากหลายทั้งแฮร์แคร์ สกินแคร์ มาสก์ต่างๆ ที่ผลิตจากมือแบบสดใหม่ รวมถึงเครื่องสำอางจากสารสกัดธรรมชาติน่าใช้มากมาย ในไทยมีแฟล็กชิปสโตร์อยู่ที่ ชั้น 1 สยามเซ็นเตอร์
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X