หากจะพูดว่า โจทย์ใหญ่ที่สุดของ Muji ในเวลานี้คือ การระบายเสื้อผ้าและสินค้าต่างๆ ที่กองอยู่ในร้าน หลังถูกปิดชั่วคราวเพราะโควิด-19 ก็คงไม่ผิดมากนัก เพราะผลกระทบของการระบาดทำให้สินค้าคงคลังสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ ซึ่ง Muji อาจถูกบังคับให้ลดราคาสำหรับสินค้าที่ขายไม่ออก โดยเฉพาะสินค้าสำหรับฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อนที่มีมูลค่ามากกว่า 2 หมื่นล้านเยน หรือเกือบ 6 พันล้านบาท
แต่ Muji ก็ยืนยันอย่างหนักแน่นว่า จะไม่ลดราคาเพื่อระบายสินค้า เพราะจะส่งผลกระทบต่อกำไรขั้นต้น หากแต่นักวิเคราะห์ก็มองว่า ปัญหาสินค้าคงคลังก็ไม่สามารถปล่อยไว้ได้นาน และการลดราคาก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด เพราะนอกจากเรื่องของผลกำไรแล้ว ยังจะส่งผลกระทบในแง่ภาพลักษณ์ที่อาจถูกผู้บริโภคมองว่าอยู่ในระดับเดียวกับแบรนด์ฟาสต์แฟชั่น ซึ่งที่ผ่านมา Muji วางตัวเองอยู่เหนือมาตลอด
ดังนั้น ทางออกของเรื่องนี้คือ การขยายช่องทางการขาย แน่นอนว่าในช่วงเวลาที่คนต้องอยู่กับบ้าน ไม่สามารถเดินไปซื้อสินค้าในร้านหรือห้างได้เหมือนปกติ ‘ออนไลน์’ จึงเป็นช่องทางการซื้อสินค้าที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และที่ผ่านมา Muji เองก็ไม่ได้รุกช่องทางออนไลน์มากนัก
ล่าสุด Muji ได้ตัดสินใจเปิดหน้าร้านของตัวเองอย่างเป็นทางการครั้งแรกในเว็บไซต์ Amazon.com เว็บอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ของโลก โดยเริ่มขายสินค้าตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา
สินค้าที่วางขายมีอยู่กว่า 250 รายการ อันประกอบไปด้วย เครื่องสำอาง ที่เก็บของ และเครื่องครัว ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นที่ถูกอกถูกใจขาช้อปที่ต้องอยู่บ้าน นอกจากนี้ยังมีสินค้ายอดนิยมอย่างผลิตภัณฑ์ดูแลผิว Clear Care และกล่องเก็บพลาสติกโพลีโพรพีลีนอีกด้วย
การขยายไปขายใน Amazon อาจเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทำให้คนที่ไม่เคยรู้จัก Muji มาก่อน หันมาสนใจและรู้จัก Muji มากขึ้น
จนถึงปัจจุบัน ร้านของ Muji 280 สาขา จากทั้งหมด 440 สาขาในแดนซามูไร ต้องปิดตัวลงชั่วคราว ส่วนร้านที่ยังเปิดอยู่ก็จำเป็นต้องลดระยะเวลาการเปิดร้านลง
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: