ในขณะที่แฟนฟุตบอลทั่วโลกต่างเหงาหงอยตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังลีกฟุตบอลทุกแห่งได้ประกาศพักการแข่งขันออกไปอย่างไม่มีกำหนดจากวิกฤตโควิด-19 แต่บนโลกใบนี้มักจะมีสิ่งที่เหลือเชื่อเสมอ
สิ่งมหัศจรรย์ในเวลานี้คือการที่ยังมีลีกฟุตบอลที่ทำการแข่งขันแบบปกติ มีผู้ชมเข้ามาชมในสนาม มีการถ่ายทอดสด และความนิยมในลีกของพวกเขาเติบโตขึ้นอย่างมากมายมหาศาลในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ลีกฟุตบอลดังกล่าวคือ เบลารุส พรีเมียร์ลีก ลีกฟุตบอลของประเทศเบลารุส ส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียตที่แยกตัวออกมาเป็นอิสระ และเป็นลีกเดียวในยุโรปที่มีการแข่งขันตามปกติในเวลานี้
ความกล้าหาญของพวกเขานำไปสู่ความนิยมที่เติบโตอย่างเหลือเชื่อเพราะแฟนฟุตบอลจำนวนไม่น้อยที่ต่างถวิลหาเกมลูกหนัง และทำให้ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดของเบลารุส พรีเมียร์ลีก ถูกจำหน่ายออกไปใน 10 ประเทศเฉพาะในช่วงเวลาที่ผ่านมา
ชื่อของ ดินาโม มินส์ค และบาเต โบริซอฟ กลายเป็นชื่อที่คุ้นหูของแฟนฟุตบอลมากขึ้น บางคนอาจสามารถลำดับชื่อนักเตะไปจนถึงขั้นรู้จักพวกเขามากพอที่จะวิเคราะห์การเล่นได้เป็นฉากๆ เลยทีเดียว
ว่าแต่ทำไมพวกเขาถึงยังแข่งขันกันได้อยู่ ไม่กลัวไวรัสกันบ้างหรือ
เรื่องนี้เกิดจากการเห็นชอบร่วมกันของทุกฝ่ายที่จะดำเนินการแข่งขันต่อไป เพราะลีกฟุตบอลของพวกเขาได้รับความสนใจอย่างมากจากผู้ชมหลายประเทศ โดยสหพันธ์ฟุตบอลเบลารุสมีส่วนในการ ‘ปิดดีล’ ขายลิขสิทธิ์ได้ถึง 10 ประเทศ โดยรวมถึงรัสเซีย, อิสราเอล และอินเดียด้วย
ตามการเปิดเผยของ อเล็กซานเดอร์ อเลนิก โฆษกของสหพันธ์ พวกเขามองปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็น ‘สถานการณ์ที่น่าเหลือเชื่อ’
ความจริงที่น่าเหลือเชื่อมากกว่าคือการที่พวกเขายังกล้าจัดการแข่งขันต่อไป ซึ่งหนึ่งในเหตุผลสำคัญคือการที่ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก เชื่อว่าชาวเบลารุสไม่จำเป็นที่จะต้องมีมาตรการในการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) เพื่อรับมือกับวิกฤตการณ์โควิด-19
มากกว่านั้นเขายังแสดงให้ดูเป็นตัวอย่างด้วยการลงแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็งตามปกติและสวมกอดกับผู้เล่นคนอื่นๆ เพื่อแสดงออกว่าไม่จำเป็นจะต้องกลัวอะไรกับไวรัสตัวจ้อยที่มองไม่เห็น “เพราะถ้าจะตายก็ขอตายอย่างมีเกียรติดีกว่า”
“ในสนามแห่งนี้ไม่มีไวรัสอะไรหรอก… ก็ผมไม่ยักจะมองเห็นมัน”
ประธานาธิบดีลูกาเชนโกยังเคยให้คำแนะนำกับประชาชนชาวเบลารุสว่าไม่ต้องไปกลัวไวรัส เอาเวลาไปขับรถไถ ไปเข้าซาวน่า และดื่มวอดก้าเพื่อต้านโรคดีกว่า
“ผมไม่ดื่มหรอก แต่ผมก็เคยบอกว่าไม่ควรจะมีใครเอาวอดก้ามาใช้ล้างมือ แต่ควรจะฆ่ามันด้วยสิ่งนี้ คุณควรจะดื่มในปริมาณ 40-50 มิลลิลิตรทุกวัน แต่อย่าดื่มตอนทำงานนะ”
ขณะที่สหพันธ์ฟุตบอลเบลารุสเองก็พยายาม ‘เซฟ’ ทุกคนด้วยมาตรการต่างๆ เช่น มีการตรวจวัดอุณหภูมิของแฟนบอลทุกคน ขณะที่คนที่ต้องสัมผัสกับแฟนบอลก็ให้สวมถุงมือทุกคน
ที่สำคัญคือแฟนบอลส่วนใหญ่ก็ไม่ได้สวมหน้ากากอนามัยแต่อย่างใดในการเข้าไปชมในสนาม
มองในแง่ดี ความนิยมของหลายสโมสรเพิ่มขึ้นอย่างมากในโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะดินาโม มินส์ค แชมป์ 7 สมัย ซึ่งสื่อสารภาษาอังกฤษได้ โดยโฆษกของสโมสรเองก็หวังว่าการที่พวกเขาเริ่มเป็นที่สนใจของแฟนบอลต่างประเทศจะช่วยยกระดับการเล่นของพวกเขาไปด้วย
“เราหวังว่ามันจะช่วยพัฒนาการเล่นของเรา เพราะผู้เล่นอาจจะรู้สึกว่าพวกเขาต้องรับผิดชอบมากขึ้น”
แต่ความจริงแล้วคุณภาพของเบลารุส พรีเมียร์ลีก ไม่ขี้เหร่เลย หนึ่งในคนที่ช่วยยืนยันคือ วิคเตอร์ ซามอยเลนโก ชาวยูเครนที่ติดตามลีกเพื่อนบ้านด้วยเพราะมีนักเตะยูเครนลงเล่นกันไม่น้อย
“เราไม่ได้คาดหวังอะไรกับลีกของพวกเขาเลยว่าจะดีขนาดนี้ พวกเราไม่รู้เรื่องพวกนี้มาก่อน เพราะเราไม่เคยได้เห็นพวกเขาเล่น”
ฮีโร่ในอดีตของชาวเบลารุสเซียนอย่าง อเล็กซานเดอร์ เคล็บ อดีตสตาร์สตุ๊ตการ์ท, อาร์เซนอล และบาร์เซโลนา ก็เคยเอ่ยปากชวนสองซูเปอร์สตาร์ที่เก่งที่สุดในโลกอย่าง ลิโอเนล เมสซี และคริสเตียโน โรนัลโด มาเล่นฟุตบอลในประเทศของเขา
เคล็บเล่าถึงสถานการณ์ภายในเบลารุสว่า “ผมเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ยากลำบากเวลานี้ และข่าวเรื่องของโควิด-19 ก็ทำให้เกิดทั้งความไม่สบายใจและความน่าสนใจอย่างมาก
“ตอนนี้ผมเองก็กักตัวอยู่ และในประเทศของเราก็อนุญาตให้ทำได้สำหรับคนที่ต้องการจะทำ แต่ผมเคยบอกไว้ในบทสัมภาษณ์ว่าทางการเองมองไม่เห็นความจำเป็นของการต้องกักตัวในประเทศ ทุกอย่างยังอยู่ในการควบคุม
“ผมไม่เห็นด้วยกับการวิตกจนเกินเหตุ โดยเฉพาะการไปดูฟุตบอล ทุกคนที่นี่ตัดสินใจเองได้ นักเตะของเราก็ไม่วิตกในการจะลงสนามและแข่งขัน หลายๆ คนก็เป็นเพื่อนของผม และถ้ามันจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของพวกเขาและสุขภาพของแฟนๆ จริง ผมมั่นใจว่าคงไม่มีการแข่งขันเกิดขึ้น”
อย่างไรก็ดี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในเบลารุสเวลานี้อยู่ที่ 94 คน และยังไม่มีผู้เสียชีวิต ซึ่งไม่ได้ร้ายแรงนักสำหรับประเทศที่มีประชากร 9.5 ล้านคน และหวังว่ามันจะไม่เลวร้ายไปกว่านี้
แต่หากจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น การตัดสินใจเปิดลีกแข่งขันต่อไปในยามนี้จะเปลี่ยนจากเรื่องมหัศจรรย์เป็น ‘มลทิน’ ของชาติทันที
จากชาติเดียวที่ยังมีเกมฟุตบอลให้ดู ก็อาจกลายเป็นชาติหน้าค่อยพบกัน
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง
- www.theguardian.com/football/2020/mar/29/belarus-football-continues-coronavirus-premier-league
- www.bbc.com/sport/football/52084121
- www.independent.co.uk/sport/football/european/coronavirus-belarus-premier-league-fixtures-broadcast-covid-19-a9432331.html
- edition.cnn.com/2020/03/29/football/football-continues-belarus-coronavirus-lockdown-spt-intl/index.html