“สัตว์ในตำนาน, สัตว์ประหลาด, สมบัติ, ขุมทรัพย์, แดนอาถรรพ์, เมืองลับแล มีเหล่าผู้คนที่ถูกเย้ายวนด้วยพลังนั้น พลังปีศาจที่ปลดปล่อยจากคำว่า ‘ลี้ลับ’ ทั้งหลาย ผู้คนต่างเรียกพวกเขาว่าฮันเตอร์”
ข้อความปฐมบทจากเรื่อง Hunter x Hunter ปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกในวันที่ 3 มีนาคม 1998 พร้อมภาพกับ กอน ฟรีกส์ เด็กหนุ่มผมตั้งอายุ 11 ปีที่จับปลาขนาดยักษ์มาเป็นเครื่องต่อรองเพื่อให้คุณน้าอนุญาตให้เขาไปสอบฮันเตอร์ อันเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางที่กินเวลาในเรื่องไม่เกิน 2-3 ปี หากแต่ในโลกแห่งความเป็นจริง การ์ตูนเรื่องนี้ออกเดินทางมาแล้ว 22 ปี
เนื้อเรื่องหลักๆ ของ Hunter x Hunter นั้นแสนเรียบง่าย คือการออกเดินทางตามหาพ่อของ กอน ฟรีกส์ แต่ผู้เขียนอย่าง โยชิฮิโระ โทงาชิ (Yu Yu Hakusho คนเก่งฟ้าประทาน) สามารถเพิ่มรายละเอียดที่สนุก ซับซ้อน หดหู่ ชวนคิดตามได้อย่างน่าสนใจ แถมยังมีฉากต่อสู้ที่ดิบ โหด ฆ่าเป็นฆ่า หัวขาด เลือดสาดกระจาย แตกต่างจากมังงะเรื่องอื่นๆ ที่ตีพิมพ์ใน Shonen Jump
ตั้งแต่การโชว์ไหวพริบการต่อสู้ขั้นพื้นฐานได้อย่างน่าตื่นเต้น ตั้งแต่ภาคการสอบฮันเตอร์ เปิดเผยความสามารถ ‘เน็น’ พลังสำคัญในการต่อสู้ที่หลากหลาย มีรายละเอียดมากมาย (ช่วงหลังๆ แค่อธิบายเงื่อนไขการใช้พลังก็แทบจะกลายเป็นนิยายภาพมากกว่าการ์ตูนแล้ว) และพลิกแพลงได้ไม่รู้จบในภาคงานประมูลที่ยอร์กชินซิตี้
การผสมผสานพลังกับลูกเล่นของการ์ดและการวางแผนที่ยอดเยี่ยมในภาคกรีดไอแลนด์, การหยิบเอาปัญหาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์มาเสนอผ่านราชามด สิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก, การชิงไหวชิงพริบที่ชวนปวดหัวในภาคเลือกตั้งประธานคนใหม่ มาจนถึงการเดินทางสำรวจพื้นที่ลึกลับ ‘ทวีปดำ’ ในภาคล่าสุดที่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป และเราจะมีโอกาสได้เห็นบทสรุปของตอนนั้นจริงๆ หรือเปล่า
รวมทั้งการสร้างคาแรกเตอร์ที่โดดเด่นเป็นที่จดจำ ตั้งแต่ความตรงไปตรงมาของกอน, ความเยือกเย็นของคิรัว, ความอ่อนไหวของคุราปิก้า, ความโผงผางของเลโอเลโอ, ความลึกลับของ จิน ฟรีกส์, ความแข็งแกร่งของประธานเนเทโร, ความเจ้าเล่ห์ของฮิโซกะ, ความเปราะบางของราชามด, กลุ่มโจรเงามายา ที่ถึงแม้ดูเหมือนถูกวางให้เป็นตัวร้าย แต่ก็เป็นตัวร้ายที่มีเสน่ห์ เต็มไปด้วยความเป็นมนุษย์มากที่สุดกลุ่มหนึ่ง
รวมทั้งบรรดาองค์ชายที่เพิ่งเริ่มเรียนรู้การใช้เน็นที่แปลกประหลาดเพื่อชิงตำแหน่งผู้สืบทอดบัลลังก์คนต่อไปในภาคล่าสุด
พูดกันตามตรง เราสามารถเรียก Hunter x Hunter ว่าเป็นหนึ่งในการ์ตูนแห่งยุคสมัยได้อย่างเต็มปากเต็มคำ การันตีด้วยยอดขาย 70 ล้านเล่ม แต่ปัญหาเพียงอย่างเดียวคือเราไม่สามารถแน่ใจได้จริงๆ ว่าจะมีโอกาสได้เห็นตอนจบบริบูรณ์ของเรื่องนี้จริงๆ หรือเปล่า
เพราะปัญหาด้านอาการปวดหลังเรื้อรัง ทำให้โทงาชิไม่สามารถนั่งเขียนงานติดต่อกันได้เหมือนเดิม (ถึงแม้คนจะชอบแซวว่าจริงๆ แล้วเขากำลังติดเกมอยู่ก็เถอะ!) ทำให้เขาต้องเขียนงานสลับกับหยุดพักอยู่หลายครั้งในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา และล่าสุดเนื้อเรื่องก็ค้างอยู่ที่ตอน 390 มาตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2019 เท่ากับว่าตลอด 22 ปี Hunter x Hunter มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 2.8 สัปดาห์ต่อ 1 ตอนเท่านั้น
แต่อย่างน้อยที่สุดในปี 2018 โทงาชิก็ยังออกมาให้สัมภาษณ์มอบความหวังให้กับแฟนๆ ว่า “ผมอยากจะเขียน Hunter x Hunter ให้จบ เพราะตอนนี้มันถึงทางแยกที่ผมจะตายก่อนหรือผมจะเขียนจบก่อนแล้ว อย่างไรก็ตาม ผมจะพยายามเขียนให้จบ”
ซึ่งทางเราก็ได้แต่ภาวนาให้เป็นอย่างนั้น หรือไม่ก็ส่งการ์ด ‘ลมหายใจมหาเทพ’ ไปรักษาอาการป่วยของเขาให้หายดี และกลับมาสานต่อเรื่องราวด้วยพลังสร้างสรรค์อันเต็มเปี่ยมได้อีกครั้ง อย่าให้อนาคตการเดินทางของเหล่าฮันเตอร์ต้องมืดมนเหมือนชื่อ ‘ทวีปดำ’ ที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้เลย
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
