หลังการลงพื้นที่หาเสียงต่อเนื่องหลายสัปดาห์ ที่อำเภอหนองเรือ และมัญจาคีรี ในเขต 7 จังหวัดขอนแก่น ซึ่งผลการเลือกตั้งล่าสุด พรรคเพื่อไทยพ่ายให้กับพรรคพลังประชารัฐ
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวเรือหลักในการหาเสียง ได้เดินทางลงพื้นที่ต่อที่ย่านสำเพ็ง กรุงเทพมหานคร เพื่อพบปะกับผู้ประกอบการและพ่อค้าแม่ค้า โดยเป็นการมารับฟังปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง เพื่อนำไปให้ผู้แทนฯ ในสภาฯ ได้เสนอปัญหาให้รัฐบาลแก้ไขต่อไป
การมาพบกับสมาคมผู้ค้าผ้าไทยในวันนี้ คุณหญิงสุดารัตน์รับปากว่าจะนำเอาปัญหา อีอีซี ที่เปิดเสรีการค้าให้กับเอกชนรายใหญ่ของจีน ไปแก้ปัญหา รวมถึงอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดจากโครงการนี้แล้วส่งผลกระทบต่อประชาชนในระดับเอสเอ็มอี โดยจะมีการรวบรวมเพื่ออภิปรายไม่ไว้วางใจในประเด็นนี้ด้วย
คุณหญิงสุดารัตน์ ยังเปิดเผยถึงกรณีที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลได้ตั้งฉายา ‘รัฐเชียงกง’ ให้กับคณะรัฐมนตรีของรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า ก็ต้องบอกว่าสื่อมวลชนได้สะท้อนภาพได้อย่างชัดเจน และน่าจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการรวมตัวของรัฐบาลที่มีพรรคการเมืองมากที่สุดถึง 18 พรรคการเมือง เป็นรัฐบาลที่มีชิ้นส่วนประกอบกันเรียกว่า ‘ปะผุ’ เยอะมาก ถ้าจะนับอายุจริงๆ ก็ต้องบอกว่า พล.อ. ประยุทธ์ อยู่มานาน 6 ปีแล้ว ส่วนรัฐบาลก็ทำงานมา 6 เดือนแล้ว แต่วันนี้ปัญหาเศรษฐกิจทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนมาก ตั้งแต่ระดับรากหญ้า พอเศรษฐกิจรากฐานกระทบไปต่อไม่ได้ ก็จะลามไปยังระดับเล็ก กลาง และใหญ่ โรงงานและผู้ประกอบการก็ทยอยปิดตัว นี่คือเสียงสะท้อนที่ได้รับมา
“ต้องบอกว่าจริงๆ รัฐบาลหมดเวลาแล้ว โดยเฉพาะตัวนายกฯ ที่เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจต้องมีความเข้าใจปัญหาจริงๆ อย่าไปว่าคนอื่นไม่เข้าใจ และต้องลงมาแก้ไขปัญหาจริงๆ ขณะนี้ประชาชนเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจของผู้ประกอบการคนไทย แต่กลับให้สิทธิพิเศษและความคุ้มครอง ด้านศุลกากรกับธุรกิจขนาดใหญ่”
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า วันนี้รัฐบาลต้องเปลี่ยนวิธีคิด ไม่ใช่บริหารดูแลช่วยแต่เศรษฐกิจรายใหญ่ หรือเอกชนเพียงไม่กี่ราย แต่ละเลยระดับรากหญ้า ซึ่งเกี่ยวข้องกับประมาณ 30 ล้านคน ที่มีกำลังซื้อในประเทศ และการออกนโยบาย ที่เรียกว่า ทุจริตเชิงนโยบายที่เกิดขึ้นในหลายนโยบาย ที่ไปเอื้อประโยชน์ให้เฉพาะคนรวย ทำให้ความเหลื่อมล้ำห่างขึ้นอีก ไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจโดยรวมเดินไปได้ สุดท้ายการส่งออก ไม่ใช่แค่ปัญหาเรื่องค่าเงินบาท แต่กำลังของผู้ประกอบการไทยรัฐบาลไม่ได้ช่วยให้เท่าเทียมต่างประเทศ แม้แต่ค่าเงินบาทก็ไม่บริหารให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
“วันนี้มันแสดงให้เห็นว่าฝีมือรัฐบาลมีมากแค่ไหน ถึงแม้จะใช้อะไหล่คล้ายคลึงกัน แต่ตัวเครื่องยนต์หลักไม่เหมือนกัน ระหว่างหัวหน้ารัฐบาลเชียงกงกับรัฐบาลไทยรักไทย อย่างที่ประชาชนเห็น ทุกเรื่องที่อ้างรัฐประหารตัวเองก็ทำ แล้วทำยิ่งกว่าเสียอีก ต้องบอกว่าสื่อทำเนียบ เฉียบ เหมือนเดิม ต้องขอชื่นชมค่ะ” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
