ความมหัศจรรย์ในผืนป่า คน และที่อยู่อาศัย    

“วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า…” หลากหลายเหตุผลของหลายคนที่ใช้เวลาพักผ่อนสั้นๆ ของชีวิตไปกับความเขียวชอุ่มและสงบร่มเย็นของธรรมชาติ แต่สำหรับบางคนอาจต้องการใช้ Quality Time ที่เหลือของชีวิตไปกับคนรัก ครอบครัว ลูกหลาน ใน ‘ที่อยู่อาศัย’ ที่ตอบโจทย์ทั้งคนและธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน

 

บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) หนึ่งในบริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย ประกาศเพิ่มเงินลงทุนโครงการ ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ ซึ่งตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 300 ไร่ บนถนนบางนา-ตราด กม.7 ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ขยายมูลค่าโครงการจากเดิม 90,000 ล้านบาท พุ่งทะยานสู่ 125,000 ล้านบาท เพื่อสร้างให้เป็นโครงการที่เป็นต้นแบบแห่งใหม่ของโลกในการพัฒนาเมือง โดยการเพิ่มงบประมาณลงทุนครั้งนี้ทำให้เดอะ ฟอเรสเทียส์ กลายเป็นโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ส่วนขนาดพื้นที่โครงการก็เพิ่มขึ้นอีก 98 ไร่ ทำให้ ณ ปัจจุบันโครงการนี้มีขนาดพื้นที่ถึง 398 ไร่เลยทีเดียว

 

 

ออกแบบพิเศษเพื่อให้คนหลายเจเนอเรชันได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น

“มีงานวิจัยระบุอย่างชัดเจนว่าหนึ่งในองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดซึ่งช่วยส่งเสริมการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดียิ่งขึ้นและมีความสุขมากขึ้นก็คือความใกล้ชิดกันระหว่างสมาชิกในครอบครัวและคนที่เรารัก 

 

“หนึ่งในนวัตกรรมที่สำคัญสูงสุดของเดอะ ฟอเรสเทียส์ คือวิธีการที่เรานำพาสมาชิกในครอบครัวจากหลากหลายเจเนอเรชันให้มาอยู่ใกล้ชิดกันด้วยการวางผังองค์ประกอบของพื้นที่ที่อยู่อาศัยโดยรอบโครงการอย่างพิถีพิถัน ซึ่งทั้งหมดถูกออกแบบเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของคนแต่ละช่วงวัยโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นวัยเริ่มต้นทำงาน คู่สมรสใหม่ วัยสร้างครอบครัว หรือพ่อแม่สูงวัย ทำให้ทุกคนได้อยู่ใกล้ชิดกับลูกหลานและพ่อแม่ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถใช้ชีวิตของตัวเองได้อย่างมีอิสระและมีพื้นที่ส่วนตัว” กิตติพันธุ์ อุยยามะพันธุ์ ผู้อำนวยการโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ โดย MQDC กล่าว

 

อีกหนึ่งสิ่งพิเศษของโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ที่เรียกได้ว่าเป็นเจ้าแรกที่สร้างพื้นที่สำหรับการอยู่อาศัยให้ผู้สูงวัยได้ใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย รวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกเฉพาะทางสำหรับกิจกรรมต่างๆ ในแต่ละวัน คลับเฮาส์ และผู้ดูแลที่ผ่านการฝึกอบรมมาเป็นอย่างดี นอกจากนั้นในโครงการยังมีโรงแรมระดับ 5 ดาว ศูนย์การแพทย์และสุขภาพขนาดใหญ่ที่ครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและเครื่องมือที่ทันสมัยที่สุด พร้อมด้วยบุคลากรผู้เชี่ยวชาญที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไทยจำนวนหนึ่ง 

 

 

‘ปอดสีเขียว’ หน้าที่หลักของผืนป่า

ด้วยขนาดผืนป่าบนพื้นที่ราว 30 ไร่ของเดอะ ฟอเรสเทียส์ จะส่งผลต่อความเย็นและอุณหภูมิในแต่ละวันของพื้นที่ทั้งหมด นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้อยู่อาศัยในโครงการได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมความยั่งยืนด้วย เช่น ระบบพลังงานที่ล้ำสมัย ซึ่งจะช่วยให้ผู้อยู่อาศัยและผู้มาทำกิจกรรมต่างๆ ในโครงการสามารถช่วยกันลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้เป็นปริมาณมหาศาล ซึ่งปริมาณการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในโครงการเทียบเท่ากับปริมาณที่พื้นที่ปลูกต้นไม้ขนาด 30,000 ไร่จะดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้

 

รวมทั้งยังมีการสร้างระบบป้องกันน้ำท่วมโดยเฉพาะ ซึ่งมีพื้นที่กักเก็บน้ำทิ้งขนาดใหญ่ สามารถรองรับน้ำได้มากกว่า 10 ล้านลิตร และสามารถป้องกันไม่ให้โครงการเกิดน้ำท่วม แม้ต้องเผชิญกับพายุฝนครั้งใหญ่ก็ตาม

 

“เราทุ่มงบประมาณก้อนใหญ่กับการสร้างพื้นที่กักเก็บน้ำเหล่านี้ แทนที่จะปล่อยให้น้ำฝนไหลออกจากโครงการและระบายออกไปในพื้นที่อื่น ซึ่งนี่เป็นตัวอย่างของการทำให้ดีที่สุด ทั้งเพื่อโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ และเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลเพื่อนบ้านที่อยู่ในชุมชนโดยรอบ” กิตติพันธุ์กล่าวเสริม

 

วิสิษฐ์ มาลัยศิริรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MQDC กล่าวว่า “โครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ เป็นการดำเนินโครงการตามปรัชญาของ MQDC ที่มุ่งเป็นองค์กรซึ่งไม่เพียงสร้างสรรค์โครงการที่ยิ่งใหญ่ แต่เป็นองค์กรที่ส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคมและให้ความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้นของทุกคนผ่านการทำจริงให้เห็นเป็นแบบอย่าง และมุ่งเป็นต้นแบบของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่สนับสนุนให้ประเทศชาติสร้างชุมชนที่มีระเบียบ มีชีวิตชีวา ไม่หยุดนิ่ง มีความสุขมากขึ้น และมีสุขภาพดียิ่งขึ้น” 

 

 

“เดอะ ฟอเรสเทียส์ อยู่ในระหว่างการออกแบบรังสรรค์และก่อสร้างโดยผู้เชี่ยวชาญซึ่งได้รับการยอมรับและยกย่องมากที่สุดกลุ่มหนึ่งของโลก รวมทั้งสถาบันต่างๆ ที่เป็นสถาบันชั้นนำระดับโลก เพื่อให้มั่นใจว่าทุกองค์ประกอบของโครงการจะส่งเสริมการมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น” ทิพพาภรณ์ อริยวรารมย์ ประธานกรรมการ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าว

 

“MQDC กำลังสร้างโครงการเมืองแห่งแรกของโลกที่ออกแบบทุกมิติมาเพื่อการใช้ชีวิตที่มีสุขภาพดียิ่งขึ้น และยังเป็นครั้งแรกในโลกซึ่งไม่เคยมีที่ไหนมาก่อนที่ผืนป่าขนาดใหญ่เช่นนี้ถูกนำมาหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเมือง เพื่อนำธรรมชาติกลับคืนสู่ชุมชนและพื้นที่ที่เป็นเมือง และนี่คือหนึ่งในหลายๆ เหตุผลที่ทำให้โครงการแห่งนี้ได้รับการขนามนามว่าโครงการเมืองแห่งความมหัศจรรย์ในผืนป่า” ทิพพาภรณ์กล่าวทิ้งท้าย

 

ต่อจากนี้ประโยคที่ว่า “วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า…” อาจจะไม่เป็นเพียงแค่เรื่องชั่วครั้งชั่วคราว แต่เป็นการได้อาศัยอยู่ร่วมกันในป่าอย่างมีความสุขและยั่งยืนตลอดไป

 

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์