งานเลี้ยงพบปะพรรคร่วมรัฐบาลที่สโมสรราชพฤกษ์เมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 ธันวาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่า 2 ส.ส. ที่เคยประกาศตัดขาดจากรัฐบาลและแยกตัวเป็นฝ่ายค้านอิสระ เดินทางไปร่วมงานเลี้ยงเป็นคนแรกๆ พร้อมปรากฏภาพ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กอดคออย่างกลมเกลียว
มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส. และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ และ พิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส. และหัวหน้าพรรคประชาธรรมไทย ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับ THE STANDARD ถึงการทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายค้านอิสระว่ายังมีอีกต่อไปหรือไม่
มงคลกิตติ์กล่าวว่า มีคนสนิทนายกฯ เชิญเข้าร่วมรับประทานอาหารจึงเดินทางไป ซึ่งได้เจอรัฐมนตรีหลายท่าน และได้อธิบายไขข้อข้องใจที่ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในหลายเรื่อง รวมถึงได้พูดคุยกันในข้อสงสัยในการทำงาน
ช่วงหนึ่ง พล.อ. ประยุทธ์ ได้เข้ามานั่งคุยกับกลุ่มสิบพรรคเล็ก โดยอธิบายถึงความมุ่งหวังของรัฐบาลและการทำงานต่างๆ ตามอุดมการณ์ของท่าน ตนได้แนะนำไปว่ารัฐบาลค่อนข้างอ่อนประชาสัมพันธ์และเข้าไม่ถึงคนรุ่นใหม่ ซึ่งต้องปรับปรุง
มงคลกิตติ์ยืนยันว่า ตอนนี้ก็ยังทำงานเป็นฝ่ายค้านอิสระอยู่ เพราะยังไม่ได้คุยกับกรรมการบริหารพรรค เดิมทีก่อนร่วมรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ ยังไม่เคยมีการชักชวน แต่เป็นการชักชวนโดยแกนนำพรรคพลังประชารัฐ จากนั้นเมื่อทำงานไปก็มีความไม่เข้าใจกันในหลายเรื่อง จึงต้องตัดสินใจออกไปเป็นฝ่ายค้านอิสระ
“หัวหน้ารัฐบาลตัวจริงเพิ่งมาพูดคุยปรับความเข้าใจในหลายเรื่อง ผมเข้าใจว่าท่านนายกฯ หวังดี และอยากให้มาร่วมกันทำงาน ท่านบอกว่าอย่าเป็นเลยฝ่ายค้านอิสระมาร่วมกันทำงานดีกว่า ผมก็เลยบอกว่าถ้าท่านนายกฯ ชวน ผมจะไปปรึกษากับกรรมการบริหารพรรคและต้นปีคงมีคำตอบ” มงคลกิติติ์กล่าว
มงคลกิตติ์กล่าวต่อไปว่า ส่วนการที่ พล.อ. ประยุทธ์ กอดคอนั้น เป็นการทำความเข้าใจกันโดยใช้กายสัมผัส ถือเป็นสิ่งที่ดีที่ พล.อ. ประยุทธ์ ควรทำกับพรรคอื่นๆ ด้วย และควรคุยกับหัวหน้าพรรคการเมืองทุกพรรคอย่าเกี่ยงว่าเป็นฝ่ายค้านเพื่อเดินหน้าประเทศชาติ
“เมื่อวานนี้ยืนยันว่าไม่มีกล้วย เป็นปลา และผมกินลูกชิ้นกับน้ำเป๊ปซี่ ผมน่าจะกินไม่เกิน 500 บาท ซึ่งผมจ่ายเงินเองได้ ไม่มีกล้วย ผมกินลูกชิ้น” มงคลกิตติ์กล่าว
ขณะที่ พิเชษฐ กล่าวว่า การทำหน้าที่ของฝ่ายค้านอิสระ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าไม่ใช่ฝั่งฝ่ายค้านและไม่ใช่ฝั่งรัฐบาล หลายๆ มติ ถ้าเป็นประโยชน์กับประเทศชาติเราก็สนับสนุน ส่วนญัตติเสนอตั้งกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาผลกระทบจาก ม.44 เราทั้งสองคนเห็นว่าไม่ควรตั้ง เพราะกรรมาธิการของสภามี 35 คณะครอบคลุมทุกปัญหาอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปตั้งซ้อนกัน การเมืองนั้นถ้าเล่นการเมืองกันมากก็ไม่ดี เพราะถ้าตั้งกรรมาธิการนี้ได้ หัวหน้ารัฐบาลก็ต้องถูกเชิญมา ทั้งนี้ตนมองประเทศชาติเป็นหลัก ส่วนการกลับมาร่วมรัฐบาลอีกครั้ง ตอนนี้ยังให้คำตอบไม่ได้ เพราะต้องชี้แจงด้วยเหตุผลที่เพียงพอกรรมการบริหารพรรคของตนก่อน
“ท่านนายกฯ ปรับตัวจากการเป็นทหารสู่นักการเมือง 5 ปีที่แล้ว มีแต่คำบัญชา แต่ตอนนี้ปรับตัวเข้ามาก็ถือว่าใช้ได้” พิเชษฐกล่าว
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า