เกิดอะไรขึ้น:
วันศุกร์ที่ผ่านมา (22 พฤศจิกายน) ผู้บริหาร บมจ. เอสไอเอสบี (SISB) ได้แถลงแผนธุรกิจในงาน Opportunity Day ซึ่งจัดขึ้นที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2563 เติบโต 15-20% จากจำนวนนักเรียนใหม่เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 200 คน และการเป้าปรับขึ้นค่าเทอมปีละ 5% โดยปัจจุบันช่วงอัตราค่าเทอมของ SISB อยู่ที่ 3-6 แสนบาทต่อคนต่อเทอม และมีค่าเทอมเฉลี่ยที่ 4.5 แสนบาท ขณะที่อุตสาหกรรมโรงเรียนนานาชาติมีการปรับขึ้นค่าเทอมประมาณ 3-15% ต่อปี และมีช่วงค่าเทอมประมาณ 2 แสน ถึง 1 ล้านบาทต่อคนต่อเทอม
บริษัทยังได้มีการเปิดหลักสูตรใหม่คือ หลักสูตร International Baccalaureate Diploma Program ซึ่งเป็นหลักสูตรสำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาปลาย เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ซึ่งคาดว่าจะเปิดการสอนในเดือนสิงหาคม 2563
ทั้งนี้ ผู้บริหารได้เปิดเผยว่า ได้ซื้อที่ดินใกล้เคียงกับโรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ธนบุรีกว่า 8 ไร่ มูลค่า 70 ล้านบาท เพื่อขยายการรองรับนักเรียนเพิ่มขึ้นอีก 600 คน เบื้องต้นคาดว่า มูลค่าก่อสร้างไว้ที่ 300 ล้านบาท โดยใช้เงินทุนจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน และเงินที่ระดมทุนจากการออก IPO ขณะเดียวกันบริษัทยังได้ศึกษาและเจรจากับพันธมิตร เพื่อร่วมทุนและเข้าซื้อกิจการทั้งในและต่างประเทศ เพื่อต่อยอดในการขยายธุรกิจ ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงเจรจากับพันธมิตรราว 10-20 แห่ง และน่าจะได้ข้อสรุปหลังจากนี้
กระทบอย่างไร:
ราคาหุ้น SISB ตอบรับประเด็นบวกดังกล่าว โดยวันศุกร์ปิดที่ 9.30 บาท เพิ่มขึ้นจากราคาปิดวันก่อนหน้าที่ 9.00 บาท หรือ 3.3% DoD และยังคงปรับขึ้นต่อเนื่องในเช้าวันนี้ (25 พ.ค.) โดยขึ้นไปทำจุดสูงสุดที่ 9.65 บาท เพิ่มขึ้นอีก 3.8% DoD จากราคาปิดวันก่อนหน้า
มุมมองระยะสั้น:
ติดตามแนวโน้มผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปีนี้ ซึ่งจากการประเมินของ SCBS อิงจากความเห็นของผู้บริหาร คาดว่า ไตรมาส 4 ปีนี้ จะมีจำนวนนักเรียนใหม่เพิ่มขึ้นอีกกว่า 30 คน หลังจาก 9 เดือนแรกของปีนี้ มีจำนวนนักเรียนใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 213 คน จากเป้าหมายทั้งปีที่คาดจะมีจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นที่ระดับ 200-250 คน บวกกับการปรับอัตราค่าเทอมขึ้น หนุนให้คาดการณ์รายได้ปีนี้เติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ต้นทุนภาระดอกเบี้ยจ่ายลดลง หลังนำเงินที่ได้รับจากการขายหุ้นไอพีโอส่วนหนึ่งไปชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน โดยรวมจึงคาดผลประกอบการปีนี้น่าจะเติบโตได้จากปีก่อน
มุมมองระยะยาว:
SCBS มองว่า SISB เป็นหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาว เนื่องจากในปัจจุบันผู้ปกครองเริ่มให้ความสำคัญต่อการศึกษาของบุตรมากขึ้น ซึ่งปัจจัยบวกหนุนต่อจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น SISB ยังเป็นหุ้นที่มีศักยภาพในการทำกำไรสูง โดยสามารถปรับเพิ่มค่าเทอมได้ในอัตราที่สูงกว่าต้นทุน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร ตลอดจนรายได้มีความมั่นคงจากการให้การเรียนการสอนนักเรียนตั้งแต่ระดับเตรียมอนุบาลถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งคิดเป็นระยะเวลาการศึกษาราว 16 ปี
อย่างไรก็ดี นักลงทุนควรพิจารณาถึง Valuation ของราคาหุ้น ซึ่งปัจจุบันซื้อขายกันที่ P/E 46.78 เท่า ตลอดจนคำนึงถึงภาวะการแข่งขันที่เริ่มรุนแรงขึ้น หลังมีผู้ประกอบการรายใหญ่หลายรายวางแผนเปิดโรงเรียนนานาชาติแห่งใหม่เพิ่มอีกในอนาคต ซึ่งจะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อทิศทางผลการดำเนินงานในอนาคตได้ รวมทั้งต้องติดตามการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักเรียนใหม่ว่าเป็นไปตามที่ผู้บริหารตั้งเป้าไว้ปีละ 200 คนหรือไม่
ข้อมูลพื้นฐาน:
บมจ. เอสไอเอสบี (SISB) ดำเนินธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ โดยมีโรงเรียนทั้งสิ้น 5 แห่ง ได้แก่
- โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์กรุงเทพ
- โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์สุวรรณภูมิ
- โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ธนบุรี
- โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์เอกมัย
- โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์เชียงใหม่ (SISB ถือหุ้น 50%)
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล