การศึกษาชิ้นใหม่ชี้ คนที่สูบบุหรี่อาจเสี่ยงเป็นโรคซึมเศร้าและโรคจิตเภทกว่าคนไม่สูบ
ผลสรุปที่ว่านี้มาจากกลุ่มนักวิจัยที่นำโดยนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยบริสตอล ประเทศอังกฤษ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ยิ่งสนับสนุนหลักฐานที่บ่งชี้ว่า การสูบบุหรี่ทำร้ายนอกจากร่างกายแล้ว ยังรวมถึงสภาพจิตใจเช่นกัน
นักวิจัยใช้ข้อมูลทางพันธุกรรม เพื่อตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผลกระทบกับการสูบบุหรี่ “คนที่มีความเจ็บป่วยทางจิตมักถูกมองข้ามในเรื่องของความสัมพันธ์และผลกระทบที่บุหรี่ทำร้ายสุขภาพโดยรวม” โรบิน วูตตัน ผู้นำการศึกษา ระบุในแถลงการณ์
“การศึกษาของเราแสดงให้เห็นว่า เราควรทำทุกวิถีทางเพื่อป้องกันปัญหาจากการสูบบุหรี่ตั้งแต่เริ่มต้น ไปจนเลิกสูบให้ได้ในที่สุด เพราะบุหรี่มีความเกี่ยวโยงกันกับเรื่องปัญหาทางจิตและทางร่างกาย”
วาเนสซา เคอร์บี กับบทเจ้าหญิงมาร์กาเรต ใน The Crown ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องฉากสูบบุหรี่และดื่มเหล้า จนอาจชักจูงผู้ชมไปในทางที่ผิด
Photo: Netflix
นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาข้อมูลจากคนจำนวน 462,690 คน ซึ่งเป็นคนที่มีเชื้อสายมาจากบรรพบุรุษฝั่งยุโรป โดยการสุ่มวิธีแบบเมนเดเลียน ซึ่งเป็นวิธีการที่ช่วยระบุความแปรปรวนทางพันธุกรรม ที่อาจชี้ให้เห็นถึงภาวะซึมเศร้าหรือโรคจิตเภท จากนั้นจึงทดสอบความแปรปรวนเหล่านั้นเข้าพฤติกรรมภายนอก อาทิ สูบบุหรี่ วิธีนี้ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เห็นถึงความสัมพันธ์ของสองสิ่งว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก่อให้เกิดโรคหรือไม่
นักวิจัยสรุปว่า ขณะที่การสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าและจิตเภทแล้ว คนที่ป่วยด้วยโรคดังกล่าวยังมักสูบบุหรี่อีกด้วย อย่างไรก็ตามผู้เขียนงานวิจัยนี้ยังเสริมอีกว่า ความสัมพันธ์กับการสูบบุหรี่อาจใช้ไม่ได้กับกลุ่มที่เป็นจิตเภทเสมอไป เพราะนักวิจัยกลุ่มเดียวกันยังพบอีกว่า การสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นไบโพลาร์ ซึ่งระบุอยู่ในชิ้นศึกษาที่ตีพิมพ์ไปเมื่อเดือนกันยายน 2019 ที่ผ่านมา
ซึ่งการศึกษาแบบฉบับเต็มที่ตีพิมพ์ในวารสาร Psychological Medicine นักวิทยาศาสตร์ยังแนะนำอีกว่า โรงพยาบาลจิตเวชควรเป็นเขตปลอดบุหรี่ เพื่อหลีกเลี่ยงผลเสียต่อสุขภาพจิต
Photo: Spelling Films International
ทั้งนี้ เดวิด เคอร์ติส จิตแพทย์ที่ปรึกษา และศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน และมหาวิทยาลัยควีนแมรี กรุงลอนดอน ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการศึกษา กลับมองต่างออกไป โดยเผยกับ CNN ว่า เขาไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ที่การสูบบุหรี่จะส่งผลโดยตรงกับสมอง และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคจิตเภท และผลการศึกษาที่ได้ยังแสดงให้เห็นว่า มีความเสี่ยงในมารดาที่สูบบุหรี่ขณะตั้งครรภ์
“สิ่งที่เราบอกได้คือ แม่ของกลุ่มคนที่เป็นจิตเภทมีความเสี่ยงทางพันธุกรรม ซึ่งทำให้พวกเขาสูบบุหรี่ขณะตั้งครรภ์ อันเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นจิตเภทในเด็ก” เขากล่าวในแถลงการณ์ “ซึ่งแน่นอนว่า มารดาได้ส่งต่อพันธุกรรมเสี่ยงดังกล่าวไปในลูกๆ ต่อด้วย”
จากการรายงานเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาของ Lancet Psychiatry Commission พบว่า ปัจจุบันทั่วโลกมีกลุ่มผู้เจ็บป่วยทางจิตเสียชีวิตเร็วกว่าคนทั่วไปถึง 20 ปี และเมื่อต้นปี 2018 มีผลศึกษาอีกชิ้นที่สรุปว่า กลุ่มวัยรุ่นที่สูบกัญชาหรือบุหรี่ เสี่ยงต่อภาวะใกล้เคียงกับโรคจิตเภท ซึ่งโรคจิตเภทนั้นเป็นโรคที่สภาพจิตใจสูญเสียความรู้ความเป็นจริง จึงทำให้เห็นภาพหลอนหรืออาการหลงผิด
อ่านเรื่อง ไขปริศนามืดมนของโรคซึมเศร้า ตอนที่ 1: ทำไมคนยุคนี้ถึงซึมเศร้า ได้ที่
ภาพ: Miramax Films
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: