ไมโครซอฟท์เปลี่ยนโมเดลธุรกิจครั้งประวัติศาสตร์ มุ่งสู่คลาวด์ 100% ลุยจับมือคู่แข่ง

ทรานส์ฟอร์มองค์กรด้วย Business Strategy อย่างไรให้สร้างรายได้ได้จริง มองคู่แข่งอย่างไรถึงสามารถร่วมงานกันได้ จะสร้างความรู้เชิงลึกในเทคโนโลยีให้กับคนในองค์กรได้อย่างไร

เคน นครินทร์ คุยกับ ธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด

ปัจจุบันไมโครซอฟท์ไม่ได้โฟกัสผลิตภัณฑ์ที่เป็นฮาร์ดแวร์อีกต่อไปแล้ว แต่กำลังมุ่งสู่การเป็น Cloud Company 100% และเปลี่ยนวิชั่นเป็น Digital Transformation Partner เป็นแพลตฟอร์มและส่วนหนึ่งในความสำเร็จของทุกองค์กร

โครงสร้างธุรกิจของไมโครซอฟท์ จากแต่ก่อนที่เน้นขาย License อย่าง Windows หรือ Microsoft Office ตอนนี้สัดส่วนรายได้เปลี่ยนไปเพราะเน้นเรื่องบริการมากขึ้น เน้น Subscription Model มากขึ้น

3 เซกเมนต์ธุรกิจผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์ ได้แก่

Productivity & Business Process เช่น Office 365 บริการอย่าง LinkedIn, Outlook, Microsoft Teams, SharePoint เป็นต้น
ธุรกิจ Cloud อย่าง Microsoft Azure ที่กำลังเน้นเป็นอย่างมาก
Personal Computing ที่เป็นผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์อย่าง Surface

จากแต่ก่อนที่เน้นธุรกิจที่ 3 เป็นหลัก ปัจจุบันนี้ลดลงเรื่อยๆ ดูจากปี 2016 รายได้จากผลิตภัณฑ์อยู่ที่ 74% รายได้จากบริการ 26% เทียบกับปี 2019 รายได้จากผลิตภัณฑ์เหลือ 53% แต่รายได้จากบริการกลายเป็น 47%

The Secret Sauce ในการทรานส์ฟอร์มของไมโครซอฟท์

1. มองที่ Customer Success เป็นหลัก

จะตั้งกลยุทธ์หรือโมเดลธุรกิจอะไรก็ตาม ต้องมุ่งไปยัง Customer Success จากการปรับวิชั่นใหม่ของ สัตยา นาเดลลา ซีอีโอของไมโครซอฟท์ ที่ต้องการเป็นแพลตฟอร์มที่เป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของลูกค้า นั่นทำให้โมเดลธุรกิจเปลี่ยนเป็นการทำคลาวด์ ลงทุนใน AI และมองการสร้างรายได้ในระยะยาวมากกว่าระยะสั้น

2. กลยุทธ์ในการพาร์ตเนอร์

ให้มองพาร์ตเนอร์ว่า ไม่มี Single Relationship ไม่มีใครเป็นคู่แข่งตลอดกาล ให้ดูว่าลูกค้าได้ประโยชน์อะไรแล้วค่อยพาร์ตเนอร์กับคู่แข่ง ในขณะเดียวกันอาจจะแข่งกันเหมือนเดิมก็ได้ ถ้าแข่งกันแล้วลูกค้าได้ประโยชน์มากกว่า

3. เปลี่ยน Know it all เป็น Learn it all

จะเป็นคนที่รู้ทุกอย่างไม่ได้อีกต่อไป ต้องสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้กับพนักงานให้ได้เพื่อแข่งกับ AI ที่กำลังพัฒนาเป็นอย่างมาก

4. Ecosystem แห่งการวัดผล

แค่วัฒนธรรมไม่พอ จะพร่ำบอกพนักงานแค่ไหน จะให้ร่วมงานกันอย่างไร แต่ถ้าไม่มี Ecosystem แห่งการวัดผล ไม่มีทางที่พนักงานจะทำ อย่างของไมโครซอฟท์ที่ไม่วัดผลกับทีมเซลด้วยยอดขาย แต่วัดที่ลูกค้าใช้งานจริงแค่ไหน ทำให้ Mindset การทำงานของทีมเซลเปลี่ยนไป หรือที่แปลกมากคือการประเมินพนักงานด้วยปัจจัยที่ว่าได้ช่วยเหลือคนอื่นในบริษัทมากน้อยแค่ไหน

5. ผู้นำต้อง Empower

ไม่ใช่การ Empower เพื่อให้ทุกคนได้เบ่งบานเพียงอย่างเดียว แต่จะทำให้ ‘ความเร็ว’ เกิดขึ้น ถ้าต้องรอให้พนักงานระดับ Operation มาติดต่อกับผู้บริหาร หรือระดับ Manager อย่างเดียว ความเร็วจะไม่มี ยิ่งในยุคที่ปลาเร็วกินปลาช้า ปลาใหญ่ก็อาจจะแพ้ปลาเล็กได้

สิ่งที่ผมได้เรียนรู้มากที่สุดจากการทรานส์ฟอร์ม รวมถึงวัฒนธรรมการทำงานของไมโครซอฟท์ คือให้หยุดคิดเรื่องของ Company Success แล้วเปลี่ยนเป็น Customer Success

สามารถฟังพอดแคสต์ The Secret Sauce
ผ่านแอปพลิเคชันต่างๆ ที่คุณสะดวกหรือใช้อยู่แล้วได้เลย