คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC) มีมติ 8-2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 1.5-1.75% ตามการคาดการณ์ของตลาด ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยนโยบายครั้งที่ 3 ของธนาคารกลาง (Fed) ในปีนี้ ในขณะที่ Fed ต้องการพยุงเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่กำลังชะลอตัวให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม Fed ส่งสัญญาณว่า นี่อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ Fed ปรับลดดอกเบี้ยในปีนี้ เพราะธนาคารกลางได้ถอดข้อความสำคัญที่เคยใส่ในแถลงการณ์ภายหลังการประชุม FOMC นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ว่า “Fed จะดำเนินการอย่างเหมาะสม เพื่อรักษาการขยายตัวทางเศรษฐกิจ” ซึ่งข้อความนี้ถูกตีความว่า Fed จะไม่ลดดอกเบี้ยอีกในช่วงเวลาที่เหลือของในปีนี้
นอกจากนี้ เจอโรม พาวเวลล์ ประธาน Fed ยังยืนยันด้วยว่า การลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นการปรับในช่วงกลางวัฏจักร (Midcycle Adjustment) ซึ่งลดกระแสคาดหวังที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ กำลังอยู่ในวงจรการปรับลดดอกเบี้ยลงอย่างต่อเนื่อง
แถลงการณ์จาก Fed ระบุว่า ทางคณะกรรมการจะติดตามข้อมูลเศรษฐกิจหลังจากนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจต่อไป ในขณะที่ Fed ได้กำหนดเส้นทางที่เหมาะสมสำหรับกรอบเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้แล้ว
ในช่วงการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน พาวเวลล์ยังตอกย้ำอีกครั้งว่า จุดยืนด้านนโยบายการเงินของ Fed ในปัจจุบันมีความเหมาะสมอยู่แล้ว
เขากล่าวว่า เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในเวลานี้มีความแข็งแกร่ง ซึ่งขับเคลื่อนโดยการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่แข็งแกร่ง แต่กระนั้นก็มีปัจจัยเสี่ยงที่อาจเข้ามาบั่นทอน เช่น ภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ตลอดจนความไม่แน่นอนเกี่ยวกับ Brexit
ทั้งนี้ ตลาดรอดูว่า Fed จะส่งสัญญาณเริ่มปรับนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายหรือไม่ หลังจากที่ Fed ปรับขึ้นดอกเบี้ยรวม 9 ครั้ง นับตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2015 ซึ่งจากถ้อยแถลงของ Fed ล่าสุด บ่งชี้ว่า ทางธนาคารกลางจะพิจารณาปรับดอกเบี้ยโดยอิงจากข้อมูลเศรษฐกิจมากขึ้น แทนความมุ่งหมายที่จะลดดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง โดยบรรดาเทรดเดอร์มองว่า มีความเป็นไปได้เพียง 25% ที่ Fed จะลดดอกเบี้ยอีกในการประชุม FOMC ระหว่างวันที่ 10-11 ธันวาคมนี้
สำหรับมติเมื่อวานนี้ มีผู้คัดค้านการลดดอกเบี้ย 2 คน คือ เอสเธอร์ จอร์จ ประธาน Fed สาขาแคนซัส ซิตี้ และ เอริก โรเซนเกรน ประธาน Fed สาขาบอสตัน โดยทั้งคู่ต้องการให้ธนาคารกลางตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิมต่อไป
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: