ปี 1997 สำคัญกับตัวผมในหลายระดับ
มันเป็นปีแรกที่ผมกลับมาอยู่ประเทศไทย หลังจากใช้เวลาแรดอยู่ที่อเมริกามา 6 ปี เป็นปีแรกที่ผมเริ่มทำงานหาเงินเอง (เป็นดีเจเปิดเพลงที่ถนนข้าวสาร) และเป็นปีแรกที่ผมเริ่มฟังเพลงจากทวีปอื่นที่ไม่ใช่อเมริกา
ใช่ครับ ก่อนปี 1997 ผมแทบไม่เคยฟังเพลงจากฝั่งยุโรปและออสเตรเลียเลย ผมถูกปลูกฝังให้ภูมิใจในความเป็นมนุษย์ยุคกรันจ์จนไม่สนใจเพลงแนวอื่น ชีวิตผมตั้งแต่เปิดยุค 90s มา มีเพียง Nirvana, Pearl Jam, Soundgarden, Alice In Chains และ Temple of the Dog เท่านั้น มันจึงทำให้การค้นพบเพลงแนวอื่นๆ จากประเทศต่างๆ เป็นอะไรที่สนุกและเพลินอย่างถึงขีดสุด
ผมจำได้ว่ามีลูกค้ามาขอเพลง Park Life ของวง Blur แล้วผมก็ทำหน้าเบลอๆ เหมือนชื่อวง ก่อนจะโดนเจ้านายด่าแล้วสั่งให้ผมไปฟังเพลงฝั่งยุโรปเพิ่มเติม ผมทำตามเจ้านายสั่งอย่างเคร่งครัด เพราะการฟังเพลง ไม่ว่าจะแนวไหนก็ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ผมชอบอยู่แล้ว
ผลที่ออกมาก็คือ นอกจากจะทำให้ผมเป็นติ่งวง Pulp พอๆ กับหลงรัก Radiohead ยังทำให้ผมรู้อีกว่า ไอ้ความภูมิใจที่เคยมีเกี่ยวกับการเป็นคนฟังเพลงเยอะของผมนั้นมันเป็นเรื่องตลกโคตรๆ ผมรู้จักเพลงใหม่เพิ่มขึ้นทุกวันจากกองซีดีที่วางอยู่ในร้าน ผมกลายเป็นคนชอบฟังเพลงป๊อปมากขึ้น ผมกลายเป็นคนตั้งใจฟังเนื้อเพลงเพิ่มขึ้น ซึ่งต่างจากสมัยก่อนอย่างมาก แล้วก็เป็นช่วงปี 1997 นั่นแหละครับที่ผมสามารถเปิดเพลงถูกใจคนทุกชาติทุกภาษา
เพลงที่ออกมาในขวบปีนั้นสำคัญกับชีวิตของผมหลายเพลงครับ เนื่องจากมันเป็นช่วงอายุที่มีเรื่องราวน่าจดจำเกิดขึ้นหลายอย่าง ทำงานครั้งแรก ไปข้าวสารครั้งแรก ต่อยกับฝรั่งครั้งแรก ถูกสาวขอเบอร์ครั้งแรก ทุกๆ เหตุการณ์ล้วนมีเพลงประกอบ และเพลงเหล่านั้นก็เป็นเพลงที่จะมีอายุครบ 20 ขวบในปีนี้
ดังนั้นผมจึงถือโอกาสย้อนเวลากลับไปฟังเพลงเหล่านั้นอีกรอบ เพลงที่ถูกปล่อยออกมาในปี 1997 ซึ่งในความคิดของผม มันเป็นปีที่ดีที่สุดปีหนึ่งของวงการดนตรี
1. I’ll Be Missing You – Puff Daddy
เจ้าพ่อเพลงแรปนำเอาเมโลดี้ของเพลง Every Breath You Take (The Police) มา samp เป็นเพลงของเขาเองได้อย่างลงตัว เสียงร้องของเฟธ อีแวนส์ (Faith Evans) ในช่วงคอรัสทำให้เพลงนี้เพราะเกินมาตรฐานเพลงแรปทั่วไป Puff Daddy (ปัจจุบัน P. Diddy) ได้แต่งเพลงนี้ให้กับเพื่อนและฮีโร่ของเขา The Notorious B.I.G. ซึ่งถูกยิงเสียชีวิตในเดือนมีนาคม ปี 1997 หลังจากเหตุการณ์ที่น่าเศร้านั้นผ่านไป 2 เดือน เพลงนี้ก็ถูกปล่อยออกมาเขย่าชาร์ตจนสามารถครองอันดับหนึ่งบน Billboard Hot 100 ได้ถึง 11 สัปดาห์
I’ll Be Missing You เป็นเพลงแรป-อาร์แอนด์บีที่ไพเราะ รวมถึงมีทำนองที่คุ้นหู ทำให้เพลงนี้สร้างแรปเปอร์หน้าใหม่ขึ้นอีกหลายคนในวงการ
——————————————————————-
2. Song 2 – Blur
ด้วยความยาวเพียง 2 นาที 2 วินาที และการจบเพลงที่ห้วนโคตรๆ มันไม่ควรจะทำให้เพลงนี้เป็นที่น่าจดจำแต่อย่างใด เพียงแต่ความแรงของเพลงและไอ้ท่อนที่ร้องว่า วู้ฮู!!! มันโคตรมันเกินกว่าที่ใครจะมองข้าม! และยังได้อานิสงส์จากเกมบอลสุดฮิต FIFA 98 ซึ่งบุรุษเพศที่เป็นเจ้าของเครื่อง PS1 จะต้องมีติดบ้าน เอาเพลง Song 2 ไปเป็นเพลงประกอบไตเติล เด็กผู้ชายแทบทุกคนที่ผมรู้จักจึงร้องเพลงนี้ได้ไปโดยปริยาย เจอหน้ากันทีก็ วู้วววววว์ฮูวววววว์ !!!!!
**อีกเพลงที่ออกในปี 1997 และถูกใช้ในเกม FIFA 98 ด้วยก็คือเพลง Tubthumping ของวง Chumbawamba
——————————————————————-
3. Barbie Girl – Aqua
พระเจ้าช่วย! ครั้งแรกที่ได้ยินเพลงนี้ผมไม่รู้จริงๆ ว่าจะชอบหรือจะรำคาญ วงป๊อปจากเดนมาร์กวงนี้สร้างเพลงที่เปิดได้ทั้งในผับข้าวสาร อาร์ซีเอ ทองหล่อ รัชดาฯ รวมถึงร้านลาบและลานโบว์ลิ่งทั่วประเทศไทย ส่วนผสมของเพลงนี้มันลงตัวมากๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์ของวงซึ่งเหมือนหลุดออกมาจากกล่องตุ๊กตา เสียงร้องแบบขึ้นจมูกเยอะๆ ของลีน (Lene Nystrøm) นักร้องนำ รวมไปถึงมิวสิกวิดีโอที่ทำออกมาน่ารักพอๆ กับตัวเพลง ในปี 1997 ถ้าใครไม่รู้จักเพลงนี้ ขอบอกเลยครับว่าโคตรเอาต์!!
——————————————————————-
4. Lovefool – The Cardigans
ยังอยู่กันแถบๆ สแกนดิเนเวียครับ โยกจากเดนมาร์กมาที่สวีเดนซึ่งเป็นบ้านเกิดของอัครมหาวงสวีดิชป๊อปคุณภาพ The Cardigans ดนตรีของวงนี้ประกอบไปด้วยเมโลดี้ติดหู คอร์ดกีตาร์สวยๆ และเสียงร้องที่ไร้ซึ่งอารมณ์ร่วม เหมือนจะด่า แต่ไม่ได้ด่าครับ ผมชมอยู่ เพราะเสียงเย็นๆ กับสีหน้านิ่งๆ ของนีนา เพอร์สสัน (Nina Persson) นี่แหละที่ทำให้ The Cardigans โดดเด่นเหนือวงอื่น
——————————————————————-
5. MMMBop – Hanson
กลับมาที่ฝั่งอเมริกาในยุคโพสต์-บอยแบนด์ ซึ่งเปลี่ยนถ่ายจากวงหน้าหล่อเต้นเก่งกลายร่างมาเป็นวงหน้าหล่อเล่นดนตรี นั่นคือที่มาของวง Hanson ซึ่งรวมเอาสามพี่น้องหนุ่มหน้าตาดีไว้ด้วยกัน 3 คน 3 ทาร์เก็ตกรุ๊ป คือไม่ว่ารสนิยมจะเป็นแบบไหน คุณต้องชอบสักคนหนึ่งแน่ๆ
ครั้งแรกที่ผมได้ยินเพลงนี้ก็ได้แต่บ่นในใจว่าเพลงบ้าอะไรของมันวะ ท่อนฮุกไม่มีเนื้อ มีแต่เสียง อึ้มบ๊อบ ปะดับปะดู้ดู่บับ ป๊าดีดาอั้มบ๊อบปะดับปะดู้ฮุ้วู่ ฮู้เย่! นี่มันไม่ใช่เพลง! นี่มันงานลวกๆ เพลงนี้ไม่ดังหรอกโว้ย!!! ผลสรุปคือเพลงโคตรดัง และผมร้องตามได้ทั้งเพลง ที่ชั่วกว่านั้นคือผมเต้นตามได้ด้วยว่ะ
——————————————————————-
6. Fuel – Metallica
โอเค ไม่ใช่แค่เพลงป๊อปแบ๊วๆ อย่างเดียวที่โดดเด่น วงร็อกรุ่นพ่ออย่าง Metallica ก็มีเพลงฮิตในปี 1997 ถึงแม้อัลบั้ม Re-Load จะไม่ใช่อัลบั้มโปรดของชาวร็อก แต่อย่างน้อยๆ อัลบั้มนี้ก็มอบเพลงร็อกเจ๋งๆ อย่าง Fuel ให้กับพวกเรา และจนถึงทุกวันนี้ Fuel ก็ยังเป็นเพลงที่พวกเขามักจะเล่นในคอนเสิร์ตอยู่เรื่อยๆ นั่นแสดงให้เห็นเลยว่าผลตอบรับของเพลงนี้มันดีขนาดไหน
——————————————————————-
7. Paranoid Android – Radiohead
หนึ่งในอัลบั้มที่ผมชอบที่สุดตลอดกาลซึ่งออกวางจำหน่ายในปี 1997 นี้ก็คือ OK Computer ของ Radiohead นั่นเองครับ การปรากฏตัวของอัลบั้มชุดนี้มันสร้างสิ่งใหม่ๆ ให้กับวงการเพลงหลายต่อหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นซาวด์ใหม่ๆ ที่เราไม่เคยได้ยินมาก่อน เนื้อเพลงที่ฟังแล้วต้องอุทานว่า “มึงเอายังงี้เลยดิ!?” และการโซโล่กีตาร์ที่แหกทุกกฎที่เราเคยเจอมา และเพลงที่โดดเด่นที่สุดในอัลบั้มชุดนี้จะเป็นเพลงอื่นไปไม่ได้เลยครับ นอกจาก Paranoid Android
ตัวเพลงนั้นราวกับถูกแบ่งออกเป็น 3 มูฟเมนต์ตามสไตล์เพลงคลาสสิก ความเกรี้ยวกราดจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นจนถึงจุดแตกหัก จุดคลาย และจุดปลดปล่อย นี่เป็นเพลงๆ แรกที่ทำให้ผมรู้สึกว่าเพลงบางเพลงมันฟังได้สนุกและตื่นเต้นกว่าการดูหนังแอ็กชัน
——————————————————————-
8. Never Ever – All Saints
ในบรรดาเกิร์ลแบนด์ทั้งหลาย มีอยู่เพียง 2 วงเท่านั้นที่ผมชื่นชอบ วงแรกคือ Sugababes ซึ่งมีเพลงเท่ๆ ออกมาเยอะมากในช่วงปลาย 90s จนถึงต้นๆ 2000s ส่วนในปี 1997 นั้น เอาจริงๆ ก็มีวงหน้าใหม่ออกมาเยอะจนขี้เกียจจำ แต่มีอยู่วงหนึ่งที่ผมจำได้แม่นมากๆ ว่าเพลงของพวกเธอนั้นเริ่มต้นด้วยการพูด ไม่ใช่การร้อง… เพลง นั้นเริ่มด้วยการพูดบ่นๆ โดยมีเปียโนคลอเบาๆ ก่อนที่เครื่องดนตรีทุกชิ้นจะตามมาช่วงเข้า verse แรก เพราะครับ เพราะมาก และสมาชิกของวงก็กำลังดี ไม่ต้องมีคาแรกเตอร์สุดทางแบบ Spice Girls เรียกได้ว่าหากใครรำคาญน้องสไปซ์ทั้งหลายก็จะเทใจมาให้ทาง All Saints เกือบทุกคน และจนถึงวันนี้ผมก็ยังยืนยันอยู่เหมือนเดิมว่า Never Ever คือเพลงป๊อปที่ดีที่สุดเพลงหนึ่งในยุค 90s
——————————————————————-
9. Wannabe – Spice Girls
ไหนๆ พูดถึงแล้วก็ต้องให้พวกเธอสักหน่อย เพราะไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ชอบพวกเธอ แต่คุณก็ต้องยอมรับว่า Spice Girls คือเกิร์ลแบนด์ที่ตอบโจทย์ตลาดได้จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างคาแรกเตอร์ของทั้ง 5 คนให้ต่างกัน แต่ยังโดดเด่นพอที่คนจะจำได้ เราจะรู้เลยว่าเบบี้สไปซ์จะแบ๊ว พอชจะไม่พูด ไม่ร้อง เพราะชีจะเชิดหน้าอย่างเดียว จิงเจอร์จะเซ็กซีหน่อย สแครีคือคนที่ร้องดีและบ้าพลัง สปอร์ตตี้จะมีภาพเป็นนักกีฬา… สาบานได้ว่าไม่ได้เปิดวิกิพีเดียหาข้อมูล แต่มันจำได้จริงๆ เพราะพวกเธอถูกสร้างขึ้นมาเพื่อพิชิตใจของผู้บริโภคอย่างเราๆ พอๆ กับพิชิตอันดับบนชาร์ตทั่วโลก
——————————————————————-
10. Everlong – Foo Fighters
ถ้าจะมีอะไรดีๆ ออกมาจากการเสียชีวิตของเคิร์ต โคเบน (Kurt Cobain) ก็คือการที่เดฟ โกรห์ล (Dave Grohl) ได้ก้าวขึ้นมาเป็นฟรอนต์แมนของวงดนตรีที่เขาก่อตั้งขึ้นมาจริงๆ เดฟมีความเป็นผู้นำสูงมากๆ การจับเขาไปอยู่หลังกลองเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย และผมมั่นใจว่าไม่ใช่ผมคนเดียวที่คิดแบบนี้ เพราะตอนที่ Foo Fighters ออกอัลบั้มแรกนั้น ผลตอบรับเป็นไปอย่างถล่มทลายมากๆ
เพลง Everlong จัดได้ว่าเป็น Top 10 เพลงที่ผมชอบที่สุดตลอดกาล ไม่ว่าจะเป็นเนื้อเพลง เสียงดนตรี เสียงร้องที่ปลดปล่อยออกมา มันทำให้ผมเชื่อในทุกๆ คำที่เดฟร้องในเพลงนี้ เดฟร้องออกมาจากใจ พวกเราแฟนเพลงรู้สึกได้ จึงทำให้ Everlong เป็นเพลงฮิตที่สุดเพลงหนึ่งของวง โชคดีของผมมากๆ ที่ได้ดูพวกเขาสดๆ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว หากใครมีโอกาส ลองหาทางไปดูครับ ดีมากจริงๆ เขาสานต่อ Nirvana ในสไตล์ของเขาเอง และทำสำเร็จอย่างงดงาม
——————————————————————-
Honorable Mentions
Bitter Sweet Symphony – The Verve
Everytime I Close My Eyes – Babyface
Angels – Robbie Williams
Santeria – Sublime
Criminal – Fiona Apple
Everybody (Backstreet’s Back) – Backstreet Boys
Bitch – Meredith Brooks
Torn – Natalie Imbruglia
—————————————————————–
ดูจากรายชื่อเพลงในปีนั้นแล้วผมถึงกับงงว่าทำไมเพลงดีๆ มันแห่กันมาออกในช่วงขวบปี 1997 ทั้งหมด
มันเป็นช่วงที่ดนตรีสดใหม่มากๆ มันเป็นยุคที่คนชอบเรียกว่าโพสต์-กรันจ์ และยังเป็นยุคล่มสลายของบอยแบนด์ที่ง้องแง้ง ซ้ำยังเป็นยุคก่อนที่โลกทั้งโลกจะถูกจู่โจมด้วยความหนักหน่วงของนูเมทัลทั้งหลาย เป็นช่วงเปลี่ยนยุคที่มีทั้งวงเก๋าและศิลปินหน้าใหม่ที่ปัจจุบันกลายเป็นตำนาน
1997 คือปีที่ดนตรีสวยงามที่สุดสำหรับผม ขอให้ทุกคนได้เจอปีดีๆ ของตัวเอง เหมือนกับที่ปี 1997 มอบให้กับผมครับ