วันนี้ (20 กันยายน) Samsung ประเทศไทยได้จัดงานเปิดตัวสมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่ ‘Samsung Galaxy Note 8’ อย่างเป็นทางการ หลังเปิดตัวทั่วโลกไปแล้วมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยจะเริ่มวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศไทยในวันที่ 22 กันยายนนี้
สำหรับ Samsung Galaxy Note 8 ในประเทศไทยมีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีดำ Midnight Black, สีเงิน Orchid Gray และสีทอง Maple Gold (ไม่ได้นำสีน้ำเงิน Deepsea Blue เข้ามาจำหน่าย)
ส่วนราคาจำหน่ายจะอยู่ที่ 33,900 บาท โดยราคาจากผู้จำหน่ายแต่ละเจ้าก็อาจจะแตกต่างกันออกไปตามแต่โปรโมชัน
ส่วนฟีเจอร์เด่นๆ และฟังก์ชันของตัวเครื่องบางส่วนมีดังนี้
– แบตเตอรี่ขนาด 3300mAh ที่ได้รับการทดสอบด้านความปลอดภัยจากแล็บทดลอง United Laboratories ถึง 8 จุดตรวจสอบ
– หน้าจอที่ใหญ่ขึ้น เต็มจอแบบชนขอบเครื่อง (edge-to-edge screen) ที่ 6.3 นิ้ว Quad HD+ Super AMOLED (เพิ่มขึ้นจาก Galaxy Note 5 ท่ีมีขนาดหน้าจอ 5.7 นิ้ว)
– กล้องหลังเลนส์คู่แบบ Dual Camera ที่มีทั้งเลนส์เทเล (Telephoto) และเลนส์ไวด์ (Wide-Angle) ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับเเสง f/1.7 ที่มาคู่กับฟีเจอร์ Dual Capture ช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายรูปครั้งเดียวแต่ได้ภาพถ่าย 2 แบบ ทั้งแบบภาพเลนส์กว้างและภาพแบบซูม และฟีเจอร์ Live Focus ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้
– ปากกา ‘S Pen’ มาพร้อมกับเส้นผ่าศูนย์กลางเพียง 0.7 มิลลิเมตร (Galaxy Note 5: 1.6 มิลลิเมตร) และความสามารถในการแยกน้ำหนักการกดปากกาลงบนหน้าจอที่ละเอียดกว่า 4,096 ระดับ สามารถใช้ฟีเจอร์ Live Message ที่วาดรูปบนภาพ MMS ได้ทันที หรือจดรายละเอียดต่างๆ ลงบนหน้าจอที่ปิดล็อก (Screen Off Memo) ได้สูงสุดถึง 100 หน้า
– เพิ่มหน่วยความจำภายนอกด้วย SD Card ได้สูงสุดถึง 256 GB (ใน Samsung Galaxy Note 5 ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้)
– ชูจุดเด่นของผู้ช่วยปัญญาประดิษฐ์ Bixby ว่าจะเข้ามามีบทบาทในการใช้งานสมาร์ตโฟนมากกว่าที่เคย รวมถึงความสามารถในการใช้งานโทรศัพท์ให้เหมือนใช้คอมพิวเตอร์ทั่วๆ ไปด้วย Samsung DeX
– ความสามารถในการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สายที่รวดเร็ว และสามารถกันน้ำ (IP68) ได้ที่ระดับ 1.5 เมตร สูงสุดเป็นระยะเวลา 30 นาที
– แรมขนาด 6 GB และชิปประมวลผลแบบ Octa-core (2.3GHz Quad + 1.7GHz Quad), 64-bit, 10nm processor และ Octa-core (2.35GHz Quad + 1.9GHz Quad), 64-bit, 10nm processor (ชิปประมวลผลแต่ละรุ่นขึ้นอยู่กับประเทศที่วางจำหน่ายและผู้ให้บริการที่ต่างกัน)