YouTube แพลตฟอร์มวิดีโอยอดนิยมของ Google ถูกสั่งปรับเป็นจำนวนเงินกว่า 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 5,200 ล้านบาท ฐานครอบครองข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานกลุ่มเด็กและเยาวชนที่อายุต่ำกว่า 13 ปีโดยมิได้รับการอนุญาตหรือความยินยอมจากผู้ปกครองก่อน ซึ่งเชื่อว่าถูกนำไปใช้ประโยชน์ในการทำ Targeted Ads
คณะกรรมาธิการการค้าสหรัฐฯ (Federal Trade Commission) ได้ออกประกาศเมื่อวันพุธที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น โดยให้ YouTube และ Google ชำระเงินค่าปรับฐานละเมิดกฎหมายความเป็นส่วนตัวของเด็กตามข้อกล่าวหา ซึ่งยักษ์ใหญ่เทคโนโลยีจากสหรัฐฯ จะต้องชำระเงินให้กับคณะกรรมาธิการการค้าสหรัฐฯ โดยตรง 136 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เหลืออีก 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐจะต้องชำระให้กับรัฐนิวยอร์ก
ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเริ่มต้นจากการที่อัยการสูงสุดนิวยอร์กและคณะกรรมาธิการการค้าสหรัฐฯ ระบุว่า YouTube ได้กระทำความผิดละเมิดกฎหมายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานเด็กบนโลกออนไลน์ (COPPA) ด้วยการถือครองข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานเด็กที่อายุต่ำกว่า 13 ปีในรูปแบบการระบุตัวตนผู้ใช้งานเพื่อติดตามพฤติกรรมและการใช้งานบนอินเทอร์เน็ต โดยไม่ได้แจ้งเตือนผู้ปกครองหรือได้รับอนุญาต
ซึ่งคณะกรรมาธิการการค้าสหรัฐฯ มองว่า YouTube ได้ประโยชน์จากการเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวไปเต็มๆ ประเมินเป็นมูลค่าหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ เพราะสามารถใช้ข้อมูลการระบุตัวตนผู้ใช้งานโดยเฉพาะคุกกี้เพื่อยิงโฆษณาออนไลน์ให้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้
โจเซฟ ไซมอนส์ ประธานคณะกรรมาธิการการค้าแห่งสหพันธรัฐ กล่าวว่า “YouTube ได้โน้มน้าวกลุ่มลูกค้าองค์กรต่างๆ ด้วยความนิยมที่พวกเขามีต่อกลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มเด็ก
“แต่เมื่อต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับ COPPA บริษัทกลับปฏิเสธที่จะยอมรับว่าส่วนหนึ่งของแพลตฟอร์มของพวกเขามีความพยายามที่จะสื่อสารตรงไปยังกลุ่มเด็กๆ ชัดเจน (สื่อถึงการทำ Targeted Ads) นั่นจึงทำให้พวกเขาไม่มีข้อแก้ต่างใดๆ ในการละเมิดกฎหมาย”
จะเห็นว่าหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะองค์กรภาครัฐของสหรัฐฯ เริ่มตื่นตัวและเอาจริงเอาจังกับการควบคุมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียในฐานะที่เป็นผู้ถือชุดข้อมูลส่วนตัวผู้ใช้งานมากขึ้น ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา Facebook ก็ถูกสั่งปรับไปแล้วเป็นจำนวนเงินกว่า 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ฐานบกพร่องการป้องกันข้อมูลความเป็นส่วนตัวผู้ใช้
ขณะที่การสั่งปรับ Google หรือ YouTube ในครั้งนี้กว่า 170 ล้านดอลลาร์สหรัฐก็ถือเป็นจำนวนเงินค่าปรับที่สูงที่สุดตั้งแต่ที่ Google เคยถูกคณะกรรมาธิการการค้าสหรัฐฯ สั่งปรับฐานบกพร่องด้านข้อมูลความเป็นส่วนตัวผู้ใช้เลยก็ว่าได้
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: