จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงหลังการประชุม 3 ฝ่าย โดยกระทรวงพาณิชย์ ตัวแทนผู้ประกอบการและตัวแทนเกษตรกรโดยสมาคมชาวนา และผู้เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงเกษตรและกระทรวงพาณิชย์
โดยมีความเห็นร่วมกันว่า เห็นชอบโครงการประกันรายได้ข้าวในข้าว 5 ประเภท ได้แก่ 1. ข้าวเปลือกเจ้า 10,000 บาท ความชื้น 15% โดยประกันรายได้ให้ไม่เกิน 30 ตัน/ครัวเรือน หรือไม่เกิน 40 ไร่ 2. ข้าวเหนียว ประกันที่ตันละ12,000 บาท ไม่เกิน 16 ตัน หรือไม่เกิน 40 ไร่ 3. ข้าวหอมมะลิ 15,000 บาท ที่ไม่เกิน 40 ไร่ หรือ 14 ตัน 4. ข้าวหอมนอกพื้นที่ตันละ 14,000 บาท ไม่เกิน 40 ไร่ หรือไม่เกิน 16 ตัน 5. ข้าวหอมปทุมไม่เกิน 11,000 บาท ไม่เกิน 40 ไร่ หรือไม่เกิน 25 ตัน
จุรินทร์กล่าวว่า จะเริ่มดำเนินการโดยเข้าที่ประชุมหารือ นบข. (คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ) ก่อน เพื่อกำหนดเวลาต่อไป
งบประมาณการเบื้องต้นจะหารือในที่ประชุม นบข. โดยให้เกษตรกรชาวนาขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร รายงานแจ้งว่า หลักเกณฑ์กลางในการอ้างอิงแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกำหนดเกณฑ์อ้างอิง โดยประกาศราคาอ้างอิงทุก 15 วัน ส่วนการใช้สิทธิและการจ่ายเงินนั้น เกษตรกรทำสัญญากับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ โดยโครงการจ่ายตรงผ่านบัญชีการกำกับดูแล มีการตั้งคณะอนุกรรมการกำกับดูแลแก้ไขปัญหาและกรรมการนโยบายบริหารข้าวระดับจังหวัด
ด้านมาตรการคู่ขนานจะดำเนินการด้านการผลิต โดยลดต้นทุนการผลิต บริหารจัดการค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าเก็บเกี่ยว การส่งเสริมระบบการเกษตรแปลงใหญ่ หรือนาแปลงใหญ่ การส่งเสริมให้เกษตรกรใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพดี และโครงการประกันภัยพืชผล เช่น โครงการประกันภัยข้าวนาปี
มาตรการประหยัดตลาดคือ การตลาดนำการผลิตการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์และข้าว GAP หรือข้าวที่ผ่านมาตรฐานการเพาะปลูก และการส่งเสริมการผลิตข้าวตลาดเฉพาะ ส่วนมาตรการระยะยาวคือ การพัฒนาชาวนาให้เป็นสมาร์ทฟาร์เมอร์ การวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและสร้างนวัตกรรมการผลิตข้าว
ส่วนมาตรการด้านการตลาดนั้น งานเร่งด่วนคือ การปรับสมดุล โดยการให้สินเชื่อชะลอการขาย การใช้สินเชื่อโดยสถาบันเกษตรกรหรือการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อก การปรับปรุงทางด้านยุทธศาสตร์ข้าวไทย และการรักษาตลาดส่งออก ทั้งตลาดเดิม ตลาดเก่า (อิรัก) และขยายตลาดใหม่
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล