สำหรับนักดื่มแล้วนั้น สิ่งสำคัญและเสน่ห์ของการลิ้มรส กลิ่น และสัมผัสของวิสกี้คงหนีไม่พ้นคาแรกเตอร์ที่ซ่อนอยู่ในแต่ละขวด
และถ้าพูดถึงแหล่งผลิตวิสกี้ชั้นดีก็ต้องนึกถึงประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งทั้ง 5 ภูมิภาคในสกอตแลนด์อันประกอบไปด้วย โลว์แลนด์, ไฮแลนด์, สเปย์ไซด์, ไอส์แลนด์ และไอเลย์ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่สร้างความเป็นเอกลักษณ์ให้กับแต่ละขวด ในบทความนี้เราขอหยิบยกแหล่งที่มีโรงกลั่นเยอะที่สุดอย่าง ‘เขตสเปย์ไซด์’ มาแนะนำให้นักดื่มหน้าใหม่ได้รู้จักกัน
เขตสเปย์ไซด์ (Speyside) ทำเลทองที่เต็มไปด้วยโรงกลั่นชั้นดี
ก่อนอื่นเราลองมาทำความรู้จักกับเขตสเปย์ไซด์กันก่อนว่าทำไมผู้ที่หลงใหลในการดื่มวิสกี้ถึงจัดให้ซิงเกิลมอลต์ที่มาจากเขตนี้เป็นของหายากและโด่งดังไปทั่วโลก เขตสเปย์ไซด์ตั้งอยู่ทางเหนือของประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งมีโรงกลั่นซิงเกิลมอลต์ วิสกี้ เยอะที่สุด
2 ใน 3 ของการผลิตมอลต์ทั้งหมดตั้งอยู่ที่นี่ ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติบริเวณนี้ที่มีดินและน้ำดีจากภูเขาหินแกรนิตที่ไหลผ่านแม่น้ำสเปย์ หัวใจสำคัญในการผลิต บวกกับอากาศที่เย็นกำลังดี จึงทำให้ทุกอย่างเป็นใจให้วิสกี้จากแถบนี้มีรสชาติที่ซับซ้อนแบบครบรส แต่ยังคงมีความละมุนนุ่มลึกตามแบบฉบับของซิงเกิลมอลต์อยู่
ความพิเศษของซิงเกิลมอลต์ที่ทำให้ใครที่ได้ลองต้องหลงใหล
ซิงเกิลมอลต์ คือวิสกี้ที่หมักและกลั่นจากมอลต์ของข้าวบาร์เลย์ที่ทุกหยาดหยดในขวดถูกบ่มมาจากโรงกลั่นเดียวเท่านั้น ด้วยวิธีกลั่นที่จะสงวนกลิ่นรสของข้าวมอลต์เอาไว้ บ่มในถังไม้โอ๊กอย่างน้อย 3 ปี (แต่ส่วนใหญ่บ่มนานกว่านี้) จึงทำให้เกิดรสชาติที่น่าทึ่ง สำหรับกลิ่นและรสชาติจะขึ้นอยู่กับแหล่งที่ผลิต ซึ่งซิงเกิลมอลต์แต่ละขวดจะมีคาแรกเตอร์ของรสชาติที่แตกต่างกันออกไป และถ้าใครอยากรู้ว่าขวดไหนดีและเหมาะกับเรามากที่สุด วันนี้เรามีซิงเกิลมอลต์ขวดพิเศษที่หาไม่ได้ง่ายๆ มาแนะนำ
ขวดที่ 1 Caperdonich 21 YO
ไฮไลต์ของวิสกี้จากโรงกลั่นนี้คือโดยส่วนมากเราอาจจะไม่คุ้นชินกับกลิ่นพีต (Peat) จากย่านสเปย์ไซด์ แต่ Exclusive Release ตัวนี้ผ่านขั้นตอนการรมควันด้วยถ่านหินพีตระหว่างการผลิต กลายเป็นวิสกี้ที่ให้ความสโมกกี้เจือด้วยกลิ่นของส้มแมนดาริน ผสมผสานอยู่ในรสชาติที่หอมติดดินแบบชาสมุนไพร
ขวดที่ 2 Caperdonich 21 YO Non-Peated
Exclusive Release ตัวที่สองจากโรงกลั่นแห่งนี้มีอายุ 21 ปีเท่ากัน เพียงแต่แตกต่างในขั้นตอนการผลิตที่ไม่มีถ่านพีตเข้ามาเกี่ยวข้อง ตัวนี้ให้ความละเอียดอ่อนของอโรมาจากน้ำมันเปลือกส้ม ด้านรสชาติจะให้รสสัมผัสของฟลอรัลและวานิลลา ถือว่าเป็นตัวที่ให้ความหวานแบบฟลอรัล ก่อนปิดท้ายด้วยควันสโมกกี้จางๆ ตอนจบ
ขวดที่ 3 Glen Keith 21 YO
ขวดนี้คือวิสกี้รุ่น 21 ปีที่ให้รสสัมผัสของผลไม้ที่ละเอียดอ่อน ก่อนจิบคุณจะได้กลิ่นของผลไม้สุกอย่างลูกแพร์และพีช ไล่ไปทางกลิ่นหวานธรรมชาติของน้ำผึ้งและวานิลลา ส่วนด้านรสชาตินั้นออกไปทางผลไม้ทรอปิคัลอย่างสับปะรดผสมกับถั่วอัลมอนด์ตอนปลาย จบด้วยอโรมาตอนท้ายที่คล้ายน้ำมันจากเปลือกส้ม
ขวดที่ 4 Longmorn 18 YO
ใน Secret Speyside คอลเล็กชันนี้ เพอร์นอต ริคาร์ด ได้นำเข้ารุ่นหายากอย่าง Longmorn 18 ปี ซึ่งขวดนี้เรียกได้ว่าเป็น ‘ประตูด่านแรกที่จะทำให้คุณเข้าใจปรัชญาของซิงเกิลมอลต์จาก Longmorn’ รสชาติขวดนี้ให้ฟรุตตี้อโรมาของลูกแพร์และมะม่วง ตามด้วยรสชาติที่ออกหวานครีมมี่ เจือด้วยคาแรกเตอร์ของโอ๊กปลายๆ นุ่มละมุนลิ้นยาวนาน
คงตอบไม่ได้ว่าขวดไหนคือขวดที่ดีที่สุด เพราะแต่ละคนคงรู้สึกถูกใจในรสชาติที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าลองดื่มดูสักครั้ง ซิงเกิลมอลต์อาจจะกลายเป็นเครื่องดื่มแก้วโปรดของคุณไปเลยก็ได้
ทุกขวดในคอลเล็กชัน Secret Speyside มีวางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่ Airport Duty Free เท่านั้น
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์