สงครามการค้าระอุ กดดันตลาดหุ้นทั่วโลก, ดัชนี PMI ภาคบริการสหรัฐฯ ต่ำสุดในรอบ 3 ปี สะท้อนภาคบริโภคชะลอตัว: 5 ปัจจัยที่นักลงทุนต้องรู้ (6 ส.ค. 2562)

สงครามการค้าทวีความรุนแรง หลังการเจรจาการค้ารอบล่าสุดไร้ข้อตกลง ส่งผลให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษี 10% กับสินค้านำเข้าจากจีน มูลค่ากว่า 300,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยวานนี้ทางการจีนได้ตอบโต้มาตรการสหรัฐฯ ด้วยการปล่อยให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าแตะระดับ 7.031 หยวนต่อเหรียญสหรัฐ ซึ่งเป็นระดับการอ่อนค่ามากที่สุดในรอบทศวรรษ พร้อมทั้งระงับคำสั่งซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ ล่าสุดทรัมป์ได้ออกมาตรการชดเชยวงเงินกว่า 2,800 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าดังกล่าว ขณะที่สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ ยังได้ออกแถลงการณ์ถึงการอ่อนค่าของสกุลเงินหยวนว่าเป็นการปั่นค่าเงิน อย่างไรก็ตาม อี้กัง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน ระบุว่า การอ่อนค่าของเงินหยวนเป็นไปตามหลักกลไกของตลาด พร้อมระบุว่า จีนจะไม่ลดค่าเงินหยวนเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการค้า โดยจีนจะดูแลอัตราแลกเปลี่ยนให้มีเสถียรภาพ และดำเนินนโยบายปริวรรตเงินตราที่มีความต่อเนื่อง การตอบโต้ระหว่างสองฝ่ายสร้างแรงกดดันต่อตลาดการลงทุน ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลง ท่ามกลางความกังวลว่าสงครามการค้าจะทวีความรุนแรงขึ้น

ฮ่องกงยังเดือดต่อเนื่อง นักวิเคราะห์คาดจีนเหลือทางเลือกไม่มาก หลังการประท้วงในฮ่องกงดำเนินมานานกว่า 9 สัปดาห์ โดยวานนี้กลุ่มผู้ประท้วงได้ยกระดับการชุมนุมด้วยการนัดหยุดงานครั้งใหญ่ ขณะที่ทางการจีนยังสงวนท่าที แต่นักวิเคราะห์มองว่า รัฐบาลจีนเหลือทางเลือกไม่มาก หากสถานการณ์ยังทวีความรุนแรง และมีข้อเรียกร้องเพิ่มมากขึ้น โดยจีนอาจพิจารณาใช้กำลังทหารเพื่อปราบปรามผู้ชุมนุมในระยะต่อไป

เงินเหรียญสหรัฐอ่อน ทองคำและบิตคอยน์ปรับขึ้นสวนทิศทางตลาดหุ้น หลังสงครามการค้าส่งสัญญาณทวีความรุนแรง กดดันค่าเงินเหรียญสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 97.52 จุด จากระดับสูงสุดในสัปดาห์ก่อนหน้า หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ที่ 98.59 จุด ส่งผลให้มีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และบิตคอยน์ได้รับประโยชน์จากการอ่อนค่าของสกุลเงินเหรียญสหรัฐ ที่เป็นต้นทุนทางการเงินโดยตรงเช่นเดียวกับทองคำ โดยราคาทองคำปรับตัวขึ้นกว่า 2.35% แตะระดับ 1,475 เหรียญสหรัฐ ขณะที่บิตคอยน์ทะยาน 7.5% ขึ้นสู่ระดับ 11,808 เหรียญสหรัฐ ยืนเหนือระดับ 11,000 เหรียญสหรัฐได้อีกครั้ง

Non-Manufacturing PMI สหรัฐฯ ต่ำสุดในรอบ 3 ปี โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) สหรัฐฯ เผยตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการ (ISM Non-Manufacturing PMI) ปรากฏว่าอยู่ที่ระดับ 53.7 จุด ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 55.5 จุด และลดลงจากครั้งก่อนหน้าที่ระดับ 55.1 จุด ซึ่งถือเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2016 สืบเนื่องจากการชะลอตัวของความต้องการบริโภคของชาวอเมริกัน ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

ดัชนี PMI ภาคบริการยุโรป ตัวเลขผสมผสาน หลังสงครามการค้าทวีความรุนแรงในช่วงขวบปีที่ผ่านมา ได้กดดันภาคอุตสาหกรรม และการส่งออกทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ภูมิภาคยุโรปยังคงมีภาคการบริการและการบริโภคที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ช่วยพยุงเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ต่อไป โดยวานนี้สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) เผยตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการของภูมิภาคยุโรป ทั้งในส่วนของสหภาพยุโรป เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และสหราชอาณาจักร โดยสหภาพยุโรปตัวเลขอยู่ที่ 53.2 จุด ลดลงและต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เล็กน้อยที่ 53.3 จุด แต่ยังอยู่ในแดนขยายตัวต่อเนื่อง 6 ปีนับ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปี 2013 ส่วนเยอรมนี ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในสหภาพยุโรป ดัชนีอยู่ที่ 54.5 จุด ลดลงและต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 55.4 จุด ขณะที่ฝรั่งเศสอยู่ที่ระดับ 52.6 จุด ขยายตัวเพิ่มขึ้นและดีกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 52.2 จุด ส่วนอิตาลีอยู่ที่ 51.7 จุด ขยายตัวเพิ่มขึ้นและดีกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 50.5 จุด และสหราชอาณาจักรอยู่ที่ระดับ 51.4 จุด ขยายตัวเพิ่มขึ้นและดีกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 50.2 จุด

ภาวะตลาดวานนี้

ตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงต่อเนื่องเหตุสงครามการค้าบานปลาย ขณะที่การอ่อนค่าของเงินหยวนเป็นสัญญาณถึงการตอบโต้ของจีนต่อการขู่ขึ้นภาษีจากทรัมป์เมื่อวันศุกร์ ถึงแม้ธนาคารกลางจีนจะสื่อว่าไม่ได้เข้ามาแทรกแซงตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศแต่อย่างใด แต่ตลาดกลับไม่คิดอย่างนั้น โดยดัชนี Dow 30 และ S&P 500 ร่วงมากกว่า 2.6% ส่วน Nasdaq ลบมากกว่า 3% ล่าสุดการปรับตัวขึ้นมาของดัชนี VIX Index เหนือระดับ 22 จุด มากกว่าช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ประกอบกับการกลับมาของสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง ทองคำแตะระดับ 1,477 เหรียญสหรัฐ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 1.736% ขณะที่ระดับ 1.45% คือระดับต่ำสุดในปี 2012 และ 1.35% คือระดับต่ำสุดในปี 2016

ยุโรป