ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 21 ปีที่แล้ว ปี 1999 คือปีเกิดของ บรูกลิน เบ็คแฮม ที่กลายเป็นปรากฏการณ์เทียบเท่ากับน้องสายฟ้า และพายุ รังษีสิงห์พิพัฒน์ ในตอนนี้ นั่นเป็นเพราะพ่อแม่ของบรูกลินอย่างเดวิด และวิกตอเรีย เบ็คแฮม ก็คือหนึ่งในคู่รักที่ไม่ว่าจะไปกินข้าวร้านไหน เที่ยวที่ไหน ก็มีกองทัพนักข่าวไปรอถ่ายรูป ผ่านมาจนถึงตอนนี้บรูกลินก็ได้เริ่มหลุดพ้นจากเงาของพ่อแม่ และกำลังสร้างเส้นทางความสำเร็จของตัวเองได้อย่างน่าชื่นชม ทั้งยังทำให้เห็นว่าการเกิดมาบนกองเงินกองทองก็ไม่มีคุณค่าเท่ากับความมุ่งมั่นและความพยายามที่สร้างขึ้นมาจากความสามารถของตัวเอง
Photo: GEERY PENNY, PAUL BARKER, GABRIEL BOUYS/AFP
บรูกลินเกิดเมื่อวันที่ 4 มีนาคม ปี 1999 ที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยตอนนั้นคุณแม่วิกตอเรีย เบ็คแฮม เป็นหนึ่งในสมาชิกของวงเกิร์ลกรุ๊ปที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด Spice Girls ส่วนคุณพ่อเดวิด เบ็คแฮม ก็เป็นนักเตะทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แล้วยังมีพ่อทูนหัวเป็นศิลปินระดับไอคอนอย่างเอลตัน จอห์น อีกด้วย
แม้คนจะชอบสันนิษฐานว่าชื่อของบรูกลินมาจากสถานที่ที่วิกตอเรียตั้งครรภ์ แต่จริงๆ แล้ววิกตอเรียเคยเขียนในหนังสือชีวประวัติชื่อ Learning To Fly ในปี 2001 ว่าเธอชอบชื่อ ‘Brook’ อยู่แล้ว และนิวยอร์กก็เป็นที่แรกที่เธอกับเดวิดได้รับข่าวดีว่าท้อง ตอนเธอกำลังทัวร์อยู่ที่นั่นกับ Spice Girls หลังจากนั้นเมื่อบรูกลินอายุแค่ 4 เดือน เขาก็เป็นส่วนสำคัญของงานแต่งงานเดวิดและวิกตอเรีย โดยเป็นผู้ถือแหวน (ที่ต้องอุ้มออกมา เพราะยังเป็นทารก) ที่จัดใหญ่โตและขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ไปทั่วโลก
ต่อมาจนถึงอายุ 15 ปี เราจะเห็นการเจริญเติบโตของบรูกลินผ่านภาพปาปารัซซีเป็นหลัก รูปตอนเขาไปเชียร์พ่อติดขอบสนาม และการไปโผล่ตามรายการเรียลิตี้โชว์ต่างๆ ของครอบครัว เช่น The Real Beckhams, Victoria Beckham: Coming to America และ Being Victoria Beckham แต่เพราะในช่วงนั้นยังไม่ค่อยมีโซเชียลมีเดีย ชีวิตของบรูกลินก็ยังมีความส่วนตัว ซึ่งต่างจากน้องอีกสองคนอย่างโรมีโอ และครูซ เบ็คแฮม ที่มีอินสตาแกรมเป็นของตัวเองตั้งแต่ยังเด็ก และคงไม่น่าแปลกใจถ้าน้องคนสุดท้อง ฮาร์เปอร์ เซเว่น จะมีแอ็กเคานต์ของตัวเองอีกไม่กี่ปีนี้
บนสุด: นิตยสาร Wonderland ถ่ายโดย อลาสเดียร์ แม็กเลลเลน
ภาพล่างทั้งแถว: จากนิตยสาร T Magazine ถ่ายโดย บรูซ เวเบอร์
เมื่ออายุ 15 บรูกลินก็ได้เหยียบเข้าสู่สมรภูมิแห่งแสงแฟลช กับการขึ้นปกนิตยสาร Wonderland ฉบับ Spring/Summer 2014 ที่ได้ช่างภาพ อลาสเดียร์ แม็กเลลเลน มาถ่ายให้ ซึ่งต่อมาบรูกลินก็ได้ฝึกงานกับเขาด้วย ในช่วงนั้นบรูกลินยังถูกตราหน้าว่าเป็นลูกดาราและใช้เส้นสายของพ่อแม่ตัวเอง ยิ่งพอในปี 2016 หลังบรูกลินได้เริ่มโชว์ความสนใจด้านถ่ายการถ่ายภาพที่ตัวเองโพสต์ผ่านอินสตาแกรม ทางแบรนด์ Burberry ก็ได้เลือกเขามาถ่ายแคมเปญน้ำหอมรุ่น Brit ซึ่งสร้างกระแสได้หนักหน่วงเลยทีเดียว โดยเฉพาะกับช่างภาพ คริส ฟลอยด์ ที่ออกมาต่อว่ากับทาง The Guardian ว่าบรูกลินไม่เหมือนพ่อแม่ที่ต้องเริ่มจากศูนย์และก้าวสู่ความสำเร็จด้วยตัวเอง แต่บรูกลินกลับใช้ชื่อเสียงแบบทางลัด
เบื้องหลังการถ่ายทำแคมเปญน้ำหอม Burberry Brit
แคมเปญน้ำหอม Burberry Brit ถ่ายโดยบรูกลิน
แม้กระแสจะรุนแรงขนาดไหน บรูกลินก็ยังมุ่งหน้าเพื่อความฝันของตัวเองในการเป็นช่างภาพมืออาชีพ เขาไม่ได้เป็นเหมือนลูกดาราบางคนที่ทำอะไรแป๊บเดียวก็เบื่อแล้วไปลองอย่างอื่น พร้อมกับถลุงเงินไปวันๆ เพราะแม้ว่าเดวิดและวิกตอเรียจะมีทรัพย์สินร่วมกันมากกว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐ หลายคนอาจไม่รู้ว่าตอนบรูกลินอายุ 15 ที่เขาเริ่มมีชื่อเสียงเป็นของตัวเอง บรูกลินยังไปทำงานในร้านกาแฟที่ลอนดอน เพราะพ่อแม่ของเขาอยากให้เรียนรู้วิธีการหาเงินด้วยตัวเอง
เดวิด เบ็คแฮม ซื้อกล้อง Fuji ให้เขาตอนอายุ 14 ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นความสนใจในการอยากเป็นช่างภาพ บรูกลินจึงไปฝึกงานเป็นผู้ช่วยให้ช่างภาพมือฉมังอย่าง นิค ไนต์ และ มาริโอ้ ซอร์เรนติ ก่อนที่จะเข้าเรียนด้านการถ่ายภาพที่ Parsons School of Design ในมหานครนิวยอร์ก เมื่อเดือนที่ผ่านมา
“แน่นอนทุกคนรู้จักผมในฐานะลูกของวิกตอเรีย และเดวิด แบ็คแฮม และคิดว่าสิ่งที่ผมได้มาก็เพราะพวกเขา ซึ่งก็จริงส่วนหนึ่ง แต่ผมก็พยายามสร้างเส้นทางความสำเร็จด้วยตัวเองเหมือนกัน และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมจึงตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่นิวยอร์ก ผมอยากสร้างชื่อให้ตัวเอง และเริ่มเรียนเพื่อสร้างอาชีพในการเป็นช่างภาพ ผมคิดว่ามันดีมากที่ผมจะได้หายไปสักระยะหนึ่งเพื่อสิ่งนี้” บรูกลินกล่าวกับนิตยสาร W
ภาพจากหนังสือ What I See
ล่าสุดบรูกลินก็เพิ่งมีหนังสือถ่ายภาพชื่อ What I See ที่รวบรวมผลงานภาพถ่ายของเขา ทั้งตามงานคอนเสิร์ต ปาร์ตี้ รูปเพื่อนๆ และรูปวันหยุดกับครอบครัว แน่นอนว่านักวิจารณ์หลายคนก็ยังติผลงานชิ้นนี้ ซึ่งเราก็เชื่อว่าบรูกลินก็ยังคงต้องพัฒนาอีกเยอะ แต่เพราะการปลูกฝังที่ดีจากพ่อแม่ของเขา และความทุ่มเทของบรูกลินในด้านนี้มาสักพักใหญ่ เราเชื่อวันหนึ่งเขาต้องประสบความสำเร็จในวงการเหมือนที่สเตลล่า แม็กคาร์ตนีย์ ได้ลบคำสบประมาทในการเป็นลูกของพอล แม็กคาร์ตนีย์ แห่งวงสี่เต่าทอง The Beatles และคำว่าเป็น ‘ลูกใคร’ ก็ไม่ได้สำคัญอะไรมากไปกว่าผลงานที่เราได้เห็น
อ้างอิง:
