* Spoiler Alert บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาของภาพยนตร์ *
ก่อนจะเข้าเรื่อง ต้องเกริ่นก่อนเลยว่า ถ้าคุณยังไม่ได้ดู ‘Mother!’ หนังเรื่องล่าสุดของ ดาร์เรน อาโนรอฟสกี (Darren Aronofsky) ผู้กำกับ Black Swan (2010) คุณอาจจะไม่อยากอ่านรีวิวใดๆ เกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้เลยก็ได้ แต่เชื่อเถอะ ถ้าคุณกำลังอยู่ในภาวะลังเล ว่าจะดูหรือไม่ดูดี-คำตอบคือ ‘ต้องดู’ และทางที่ดีที่สุดคือย้อนกลับไปดูเทรลเลอร์แค่นั้น เพราะการอ่านข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ จะกลายเป็นการทำลายความสนุกของหนังพอสมควร
Mother! บอกเล่าเรื่องราวของสามีภรรยาคู่หนึ่ง ฝ่ายสามีรับบทโดย จาเวียร์ บาเด็ม (Javier Bardem) นักเขียนใจบุญชื่อดัง ส่วนภรรยาสาวแสนสวย รับบทโดย เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ (Jennifer Lawrence ใน Mother! เธอสวยมาก ดูเพลินจนละสายตาไม่ได้เลยสักซีน)
ทั้งคู่แยกมาอยู่ในบ้านไร่ที่ห่างไกลจากคนอื่น เพื่อที่จะให้คุณสามีเขียนงานชิ้นใหม่ให้เสร็จ โดยคุณภรรยาก็คอยดูแลทุกอย่าง จนกระทั่งวันหนึ่งมีแขกแปลกหน้ามาเยือนบ้านแสนสงบสุขหลังนี้ ทั้งคุณลุงหมอ เอ็ด แฮร์ริส (Ed Harris) และคุณป้ามิเชล ไฟเฟอร์ (Michelle Pfeiffer ที่บอกเลยว่านางควรได้รับรางวัลนักแสดงสมทบไปจริงๆ) เมื่อแขกแปลกหน้ามาเยือนบ้านแสนสงบสุขหลังนี้ จึงทำให้เกิดเรื่องราว ที่ ‘เกินเรื่อง’ ขึ้นเต็มไปหมด
ถือว่าเป็นเรื่องยากที่จะรีวิว Mother! ในรูปแบบที่ไม่สปอยล์ และยังคงความสดของหนังให้ได้มากที่สุด เอาเป็นว่า Mother! สวยงาม และมีความเซอร์เรียลเกินจริง ทั้งยังนำเสนอภายใต้หน้าตาของโลกความจริงอยู่
การแสดงของสาวเจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ในเรื่องนี้น่าจับตามองเลยทีเดียว เพราะแทบจะเป็นคาแรกเตอร์ที่เราไม่ค่อยได้เห็นจากเธอเท่าไร และแม้จะดูขัดตาบ้างในตอนต้นของหนัง แต่การแสดงโดยรวมของนักแสดง ‘ทุกคน’ ถือว่าดีเกินคาด มุมกล้องที่ใช้ก็น่าสนใจ มักถ่ายตามหลังตัวละครหลักของเรื่อง อาร์ตไดเรกชันก็สวยงาม ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม ฉาก และเรื่องราวก็ยังอาร์ตเหมือนกับการเดินดูงานศิลปะที่ชอบ
แม้ว่าเว็บไซต์ที่ออกมาวิจารณ์ Mother! หลายๆ ที่ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พอดูไปเรื่อยๆ Mother! มันช่าง ‘เกินเรื่อง’ ไปมากๆ (ซึ่งก็จริง) แต่เรากลับชอบ! เพราะถ้าคุณมองว่าหนังที่ดี วัดจากการที่มันเล่าเรื่องให้ส่งผลต่ออารมณ์คนดูมากเท่าไร Mother! ก็เป็นหนังที่คู่ควรต่อการซื้อตั๋วเข้าไปดูจริงๆ
แต่สำหรับคนที่ดูมาแล้ว ผ่านโมเมนต์ช็อกมาแล้ว เรามีข้อมูลเสริมเล็กน้อยจากสื่อต่างๆ บทสัมภาษณ์ของผู้กำกับเอง และความเห็นส่วนตัวที่คิดเองเออเองของผู้เขียน ที่อาจจะช่วยให้คุณปะติดปะต่อเรื่องราว และไขข้อข้องใจเกี่ยวกับภาพยนตร์สุดอึดอัดเรื่องนี้ได้ และเราขอเตือนว่าการอ่านพาร์ตต่อไปจะเป็นการสปอยล์ Mother!
เราเตือนคุณแล้วนะ!
**Spoiler Alert – บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาของภาพยนตร์**
1. มันเกี่ยวกับศาสนาคริสต์
แม้จะไม่ใช่ผู้นับถือศาสนาคริสต์ แต่ใน Mother! ก็สอดแทรกซีนหลายซีนที่นำเสนอซิมโบลิกแบบศาสนามากๆ เข้าไป จนทำให้เราต้องออกมาทำรีเสิร์ชต่อว่าความสงสัยที่มีอยู่มันถูกหรือไม่ และพบว่า Mother! พูดถึงการสร้างโลก และการทำลายโลกของพระเจ้า การที่พระเจ้าลงโทษมนุษย์ และอาจจะมีการแฝงตัวละครในไบเบิลอื่นๆ เข้าไปด้วย
เราอาจจะเคยรู้เรื่องราวของศาสนาคริสต์มาบ้าง โดยที่เนื้อหามักมุ่งเน้นไปที่ ‘พระเจ้า’ เป็นส่วนใหญ่ แต่ผู้กำกับ ดาร์เรน อาโนรอฟสกี นำเสนอผ่านมุมมองผู้หญิงในเรื่องนี้ (มีบางสื่อที่อ้างว่าตัวละคร เจนลอว์ ก็คือ Mary กับ Gaia ที่เป็น Mother of Life หรือเทพผู้เป็นมารดาแห่งชีวิต)
นอกจากนี้ยังมีการเปรียบเทียบ สวรรค์ และ นรก ผ่านตัวบ้านที่พวกเขาอยู่ (ชัดมาก) และซิมโบลิกยิบย่อยอื่นๆ ในหนัง เช่น ซีนที่มีน้องกบวิ่งออกมา ซึ่ง กบคือตัวแทนของพระเจ้าแห่งการให้กำเนิดตามความเชื่อฝั่งอียิปต์ ซึ่งสำหรับคนที่ไม่มีความรู้ด้านศาสนาอื่นมากนัก ก็อาจจะตีความรายละเอียดเหล่านี้ได้ยากสักหน่อย
2. Mother!=แม่เจนลอว์=โลก
อาโนรอฟสกี มองว่าผลงานชิ้นนี้คือบทกวีที่บอกเล่าการปฏิบัติผิดต่อโลก และการทำลายโลกของมนุษย์ ทำให้ธรรมชาติลงโทษ
ลองนึกถึงข่าวโลกร้อน ภัยพิบัติต่างๆ ที่เกิดขึ้นเพราะมนุษย์ปฏิบัติต่อโลกแย่มาก ไม่ว่าธรรมชาติ หรือ ‘Mother Earth’ จะให้ ให้ ให้ มนุษย์มากเท่าไร เราก็ไม่เคยรู้จักพอสักที จะเห็นว่า เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ในเรื่อง เธอไม่ใส่รองเท้าเลย แถมในโปสเตอร์โปรโมตเราก็มักเห็นเธออยู่ท่ามกลางดอกไม้ ธรรมชาติ ต่างๆ นานา เพื่อตอกย้ำให้เห็นว่า เธอ ก็คือ โลก ที่อยู่ติดธรรมชาติ มีแต่ ‘ให้’ และไม่มีหนทางปกป้องตัวเองจากเรื่องร้ายๆ ที่มนุษย์ทำใส่ จนในตอนจบที่นางเดือดขึ้นมานี่แหละ!
3. พ่อ+แม่=?
ในความเห็นส่วนตัวผู้เขียน ถ้าแม่เจนลอว์ คือโลกใบนี้ที่โดนมนุษย์ทำร้าย คุณสามี ฮาเวียร์ บาร์เด็ม (Javier Bardem) คงเป็นเสมือนพระเจ้าที่มีผู้ติดตามเต็มไปหมด จิตใจดี และพยายามควบคุมพฤติกรรมแฟนคลับตัวเอง ในพาร์ตหลังของภาพยนตร์นำเสนออย่างชัดเจนว่าสามี ‘นักเขียน’ สุดท้ายก็เขียน ‘หนังสือ’ เล่มใหม่ของเขาเสร็จ ซึ่งทำให้แฟนคลับงานเขียนของเขาตามมาที่บ้าน และเชื่อฟังทำตามทุกสิ่งทุกอย่างที่นักเขียนผู้นี้บอก แม้กระทั่งในตอนจบที่แม่เจนลอว์ต้องสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ และเป็นไปเพราะความบ้าคลั่งของเหล่ามนุษย์แฟนคลับ คุณสามียังหลุดคำพูดที่ทำให้หลายๆ คนคงเดือดว่า ‘ให้อภัยพวกเขาเถอะ’ สรุปแล้วตัวหลักสองตัวของหนังเรื่องนี้อาจจะเป็นการพูดถึง 2 บทบาทหลักบนโลกคือศาสนา และข้อเท็จจริงทางวิทยาศาสตร์ในมุมมองของ อาโนรอฟสกี ก็เป็นได้
ถ้าถามว่าหนังเรื่องนี้ดีหรือไม่ เราอาจจะให้คำตอบไม่ได้ (เพราะสุดท้ายก็อยู่ที่รสนิยม) แต่ถ้าถามว่าควรดูหรือไม่ ให้คุณลองนึกถึงการขึ้นรถไฟเหาะแบบนั่งอยู่เฉยๆ กับที่ แต่กลับได้อารมณ์ทั้งบ้า ทั้งชวนปวดหัวพอๆ กับการขึ้นรถไฟเหาะจริงๆ ถ้าคุณจินตนาการไม่ออก คุณควรลองเข้าไปดู ‘Mother!’ แล้วคุณจะเข้าใจความรู้สึกนั้นว่ามันเป็นยังไง
แม้ตอนนี้อาจจะยังไม่มีใครเข้าใจความหมายของหนังได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ และมีแต่การคาดเดาเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น ทางฝ่ายผู้กำกับ อาโนรอฟสกี บอกเองเลยว่าเขาต้องการให้คนดู Mother! เสร็จ เดินออกจากโรงแล้วมึน เพื่อออกมาตั้งคำถามกับตัวเองแบบนี้นี่ล่ะ (แสดงว่าที่คุณดูแล้วงงน่ะถูกแล้ว) แล้วเขาก็ไม่อยากให้ใครรู้ว่าจะเจอกับอะไรก่อนเดินเข้าโรงหนังด้วย สิ่งที่เขาต้องการคือให้คนดูเตรียมตัวให้พร้อมกับความตึงเครียดที่จะเกิดขึ้นเท่านั้น